คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 376/2503

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คดีอาญาเกินอำนาจศาลแขวงพิจารณาพิพากษา เมื่อศาลแขวงไต่สวนมูลฟ้องแล้วพิพากษายกฟ้อง โจทก์ย่อมอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงได้ (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 6/2503)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานแจ้งความเท็จ ศาลแขวงธนบุรีไต่สวนแล้วเห็นคดีไม่มีมูลเป็นความผิดทางอาญา พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์เห็นว่าศาลแขวงยกฟ้องในข้อเท็จจริง โจทก์อุทธรณ์ไม่ได้ พิพากษายืน
โจทก์ฎีกาว่าคดีของโจทก์ไม่ต้องห้ามอุทธรณ์ในข้อเท็จจริง
ศาลฎีกาเห็นว่า ตาม พ.ร.บ. จัดตั้งศาลแขวง ฯ ม.๑๓ ระบุว่าการไต่สวนมูลฟ้องของศาลแขวงให้ถือว่า เป็นการไต่สวนมูลฟ้องของศาลอาญาหรือศาลจังหวัดแล้วแต่กรณี ตามมาตรานี้ย่อมเป็นการระบุให้เห็นว่า การไต่สวนมูล ฟ้องคดีที่เกินอำนาจของศาลแขวงนั้นให้ถือเป็นการไต่สวนมูลฟ้องของศาลอาญา หรือศาลจังหวัด การไต่สวนมูลฟ้องของศาลอาญา หรือศาลจังหวัด เมื่อศาลสั่งว่าคดีไม่มีมูล ป.วิ.อ. มาตรา ๑๗๐ ระบุให้อุทธรณ์ฎีกาได้ ไม่เป็นการต้องห้าม พ.ร.บ. จัดตั้งศาลแขวง ฯ มาตรา ๒๒ ศาลฎีกาโดยที่ประชุมใหญ่เห็นว่า มาตรา ๒๒ มีความหมายเฉพาะคดีที่อยู่ในอำนาจของศาลแขวง ที่จะพิจารณาพิพากษาคดีเท่านั้น คดีที่เกินอำนาจศาลแขวงที่จะพิจารณาพิพากษา จึงอุทธรณ์ในข้อเท็จจริงได้คดีนี้ ตามคำบรรยายฟ้องและคำขอท้ายฟ้องของโจทก์เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๗๔ วรรค ๒ ซึ่งโทษจำคุกอย่างสูงไม่เกินห้าปี ปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท อันเป็นความผิดเกินอำนาจของศาลแขวงที่จะพิจารณาพิพากษาได้ จึงไม่ต้องห้ามอุทธรณ์ข้อเท็จจริง
พิพากษายกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาพิพากษาใหม่

Share