คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3753/2531

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ห้างหุ้นส่วนจำกัด ส. เป็นตัวแทนของโจทก์ร่วมในการเก็บเงินจากลูกค้าที่เช่าซื้อรถยนต์จากโจทก์ร่วม เมื่อข้อเท็จจริงฟังไม่ได้ว่าจำเลยเป็นผู้เบียดบังเอาเงินของโจทก์ร่วมไปเป็นประโยชน์ของจำเลยเองหรือของบุคคลที่ สาม แม้จำเลยจะเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการของห้างหุ้นส่วนจำกัด ส. ก็ถือไม่ได้ว่าจำเลยยักยอกเงินของโจทก์ร่วม การที่ห้างหุ้นส่วนจำกัด ส. มิได้ส่งเงินที่เก็บจากลูกค้าให้แก่โจทก์ร่วม ก็เป็นเรื่องผิดสัญญาที่โจทก์ร่วมจะต้องเรียกร้องเอาจากห้างหุ้นส่วนจำกัด ส. ในทางแพ่ง จำเลยไม่มีความผิดฐานยักยอก

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการของห้างหุ้นส่วนจำกัดสินทร์ค้าสงขลาซึ่งเป็นตัวแทนของบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ศรีมิตร จำกัด ผู้เสียหาย (โจทก์ร่วม) ได้รับเช็คจำนวน ๔ ฉบับ เป็นเงิน ๒๕,๗๕๐ บาท จากนายอภิรักษ์ ว่องวานิข เพื่อเป็นการผ่อนชำระค่าเช่าซื้อรถยนต์ให้แก่ผู้เสียหาย จำเลยไปเรียกเก็บเงินตามเช็คแล้วเบียดบังเงินดังกล่าวเป็นประโยชน์ส่วนตัว ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๕๔, ๙๑
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์ร่วมอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ร่วมฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่โจทก์ร่วมฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายว่าแม้ห้างหุ้นส่วนจำกัดสินทร์ค้าสงขลา ซึ่งเป็นตัวแทนของโจทก์ร่วมจะเป็นผู้รับเช็ค ๔ ฉบับ ตามฟ้องไว้ เมื่อนำเช็คไปเรียกเก็บเงินแล้วไม่นำส่งให้โจทก์ร่วม จำเลยซึ่งเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ เป็นผู้ทำแทนห้างหุ้นส่วนจำกัดสินทร์ค้าสงขลาถือว่าจำเลยเป็นผู้ร่วมรับเช็คไว้จะต้องมีความผิดฐานยักยอกด้วยนั้น เห็นว่า เมื่อข้อเท็จจริงไม่ได้ความว่าจำเลยเป็นผู้เบียดบังเอาเงินของโจทก์ร่วมไปเป็นประโยชน์ของจำเลยเองหรือของบุคคลที่สาม แม้จำเลยจะเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการของห้างหุ้นส่วนจำกัดสินทร์ค้าสงขลาก็ถือไม่ได้ว่าจำเลยยักยอกเงินของโจทก์ร่วม การที่ห้างหุ้นส่วนจำกัดสินทร์ค้าสงขลาซึ่งเป็นตัวแทนของโจทก์ร่วมโดยตรงมิได้ส่งเงินที่เก็บจากผู้เช่าซื้อรถยนต์ให้แก่โจทก์ร่วมก็เป็นเรื่องผิดสัญญาที่โจทก์ร่วมจะต้องเรียกร้องเอาจากห้างหุ้นส่วนดังกล่าวในทางแพ่งจำเลยไม่มีความผิดดังฟ้อง
พิพากษายืน

Share