แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การที่จำเลยให้การว่า เมื่อน้าโจทก์ซึ่งเป็นผู้เช่าเดิมถึงแก่กรรมแล้วโจทก์ได้รับโอนสิทธิการเช่าบ้านพิพาทจากสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ และโจทก์ได้ตกลงให้จำเลยเช่าช่วงบ้านพิพาทเช่นที่เคยปฏิบัติมาเมื่อครั้งน้าโจทก์ให้จำเลยเช่าโดยเสียค่าเช่าให้โจทก์ เช่นนี้เท่ากับจำเลยยอมรับว่าจำเลยอยู่ในบ้านพิพาทโดยอาศัยสิทธิการเช่าของโจทก์ และแสดงว่าโจทก์ได้รับมอบการครอบครองบ้านพิพาทจากสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ผู้ให้เช่าแล้ว โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องขับไล่และเรียกค่าเสียหายจากจำเลยได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าโจทก์เป็นผู้ทรงสิทธิการเช่าบ้านเลขที่ 1453 ถนนเจริญกรุงแขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร โดยเช่าจากสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ เดิมน้าโจทก์ซึ่งเป็นผู้เช่าเดิมได้ให้จำเลยอาศัยบ้านทำการค้า โจทก์ไม่ประสงค์ให้จำเลยอาศัยอีกต่อไป ขอศาลพิพากษาาขับไล่จำเลยและบริวารและใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์
จำเลยให้แก่ว่า จำเลยเช่าช่วงบ้านพิพาทจากโจทก์โดยมารดาโจทก์รับเงินค่าเช่าแทน โจทก์ได้สิทธิการเช่ามาโดยไม่สุจริต ค่าเสียหายไม่เท่าจำนวนที่โจทก์อ้างในฟ้องโจทก์เพิ่งได้สิทธิการเช่าาและไม่ได้อยู่บ้านพิพาทจึงไม่มีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยและเรียกค่าเสียหาย ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นว่า โจทก์มีอำนาจฟ้องและจำเลยอยู่ในบ้านพิพาทโดยอาศัยโจทก์ส่วนค่าเสียหายโจทก์รับว่าเสียหายเพียงเท่าที่จำเลยให้การจึงพิพากษาขับไล่จำเลยและบริวารพร้อมทั้งให้ใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ตามจำนวนที่จำเลยให้การรับ
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีนี้จำเลยให้การว่าเมื่อนายสันต์ พิชญวรมาศ น้าโจทก์ผู้เช่าเดิมถึงแก่กรรมแล้ว โจทก์ได้รับโอนสิทธิการเช่าบ้านพิพาทจากสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ และโจทก์ได้ตกลงให้จำเลยเช่าช่วงบ้านพิพาทเช่นที่เคยปฏิบัติมาเมื่อครั้งนายสันต์น้าโจทก์ยังมีชีวิตอยู่โดยเสียค่าเช่าให้โจทก์เดือนละ 24,000 บาท ตามคำให้การของจำเลยดังกล่าวเท่ากับยอมรับว่าจำเลยอยู่ในบ้านพิพาทโดยอาศัยสิทธิการเช่าของโจทก์ และแสดงว่าโจทก์ได้รับมอบการครอบครองบ้านพิพาทจากสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ผู้ให้เช่าแล้ว โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องขับไล่และเรียกค่าเสียหายจากจำเลยได้ ส่วนฎีกาของจำเลยข้ออื่นเป็นการยกข้อเท็จจริงขึ้นใหม่นอกเหนือคำให้การ ทั้งข้ออ้างตามฎีกาก็ไม่ก่อให้เกิดสิทธิแก่จำเลยที่จะอยู่ในบ้านพิพาทต่อไป คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ชอบแล้ว
พิพากษายืน