คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 375/2531

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

คำฟ้องของโจทก์ที่เรียกค่าเสียหายอ้างว่าจำเลยผิดสัญญารับจ้างทำการฟอกและย้อมผ้าโดยระบุอัตราค่าจ้างฟอกและย้อมผ้าไว้ชัดเจนแล้ว จำเลยให้การว่าไม่ได้ทำผิดสัญญาและฟ้องแย้งเรียกค่าจ้าง แม้คำให้การและฟ้องแย้งของจำเลยไม่ได้ระบุว่าค่าจ้างย้อมผ้าคิดในอัตราใด แต่จำเลยก็มิได้ปฏิเสธซึ่งต้องฟังว่า จำเลยยอมรับอัตราค่าจ้างตามฟ้อง ไม่จำเป็นต้องระบุไว้อีกในฟ้องแย้ง จึงเป็นฟ้องแย้งที่ชอบด้วยกฎหมาย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าโจทก์ได้ว่าจ้างจำเลยทำการฟอกและย้อมผ้าดิบในอัตราฟอกขาวหลาละ 2.75 บาท การย้อมสีถ้าเป็นสีอ่อนค่าจ้างหลาละ 3 บาท สีแก่หลาละ 4.25 บาท โจทก์ทำสัญญาขายผ้าดังกล่าวให้บริษัทเมย์ฟิลด์ จำกัด โจทก์ส่งมอบผ้าแก่จำเลยและจำเลยทำการฟอกขาวส่งมอบแก่โจทก์แล้วบางส่วน คงเหลือผ้าดิบที่โจทก์ไม่ได้สั่งให้ย้อมที่จำเลยส่วนหนึ่ง ผ้าที่จำเลยย้อมและส่งมอบแก่บริษัทเมย์ฟิลด์ จำกัดนั้น ปรากฏว่ามีรอยด่างสภาพสีไม่ทั่ว จำเลยไม่ยอมรับกลับไปแก้ไข เป็นการผิดสัญญา ขอให้บังคับจำเลยชำระค่าเสียหายพร้อมด้วยดอกเบี้ย จำเลยให้การและฟ้องแย้งว่า ผ้าที่จำเลยย้อมไม่มีรอยด่างและสภาพสีไม่ทั่ว จำเลยไม่ได้ทำผิดสัญญา โจทก์ไม่ชำระราคาค่าจ้างย้อมสีและค่าจ้างฟอกขาวผ้าดิบที่โจทก์รับไปแล้วขอให้ยกฟ้องและพิพากษาให้โจทก์ชำระเงินค่าจ้างย้อมผ้าดังกล่าวแก่จำเลยพร้อมดอกเบี้ยโจทก์ให้การแก้ฟ้องแย้งว่า จำเลยเป็นฝ่ายผิดสัญญา ฟ้องแย้งของจำเลยเคลือบคลุมในส่วนที่เกี่ยวกับค่าจ้างเพราะไม่ทราบว่าค่าจ้างย้อมคิดในอัตราเท่าใด อย่างไหนคิดเท่าใดขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์ ให้โจทก์ชำระเงิน 194,994 บาทแก่จำเลยพร้อมดอกเบี้ย โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้จำเลยใช้เงิน 155,100 บาทพร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์ ให้จำเลยคืนผ้าดิบ 2,359 หลาแก่โจทก์ หากไม่คืนให้ ให้ใช้ราคา 27,600 บาทแทนยกฟ้องแย้ง โจทก์จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยไม่ได้เป็นฝ่ายผิดสัญญา และโจทก์ค้างชำระค่าจ้างจำนวน 194,994 บาท…ปัญหาว่าฟ้องแย้งเกี่ยวกับค่าจ้างชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เห็นว่า แม้คำให้การและฟ้องแย้งไม่ได้ระบุว่าค่าจ้างย้อมผ้าคิดในอัตราใด อย่างไหนคิดเท่าใดก็ตาม คำฟ้องของโจทก์ก็ระบุไว้ชัดเจนแล้วว่า คิดอัตราค่าจ้างต่อกันอย่างไร ซึ่งตามคำให้การของจำเลยไม่ได้ปฏิเสธ ก็ต้องฟังว่าจำเลยยอมรับอัตราค่าจ้างตามฟ้องส่วนอย่างไหนคิดเท่าใดเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับรายละเอียดที่จะต้องนำสืบในชั้นพิจารณา ไม่จำเป็นต้องระบุไว้จึงเป็นฟ้องแย้งที่ชอบด้วยกฎหมาย ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำเลยแพ้คดีทั้งหมดและยกฟ้องแย้งนั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วยฎีกาจำเลยฟังขึ้น ฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น
พิพากษากลับ ให้จำเลยคืนผ้า 1,271 หลา และชำระเงินค่าผ้าที่ชำรุด 222.30 บาทแก่โจทก์ หากคืนไม่ได้ให้จำเลยใช้เงินค่าผ้า14,870.70 บาทแทนพร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันฟ้องจนกว่าชำระเสร็จ และให้โจทก์ชำระเงินค่าจ้าง 194,944 บาทตามฟ้องแย้งแก่จำเลยพร้อมด้วยดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีของต้นเงินดังกล่าว นับแต่วันฟ้องจนกว่าชำระเสร็จ ให้โจทก์ใช้ค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสามศาลโดยกำหนดค่าทนายความ 3,000 บาทแทนจำเลย”

Share