แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เมื่อที่พิพาทไม่ใช่ที่บ้าน ที่สวนตามกฎหมายลักษณะเบ็ดเสร็จ และโจทก์โก่นสร้างที่พิพาทหลังจากที่ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 4 ประกาศใช้แล้วคดีต้องบังคับตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 4 หากปรากฏว่าที่พิพาทเป็นที่ดินมือเปล่าผู้ยึดถือก็มีแต่สิทธิครอบครอง เมื่อถูกแย่งการครอบครองโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ผู้ครอบครองก็ต้องฟ้องคดีเพื่อเอาคืนซึ่งการครอบครองนั้นภายใน 1 ปี นับแต่เวลาถูกแย่งการครอบครองตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1367,1375 มิฉะนั้นหมดสิทธิที่จะฟ้องเรียกที่พิพาทคืนตาม มาตรา 1375
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า เมื่อ พ.ศ. 2470 โจทก์ได้โก่นสร้างที่ป่าทำเป็นสวนผลไม้และครอบครองตลอดมา ต่อมาเดือนธันวาคม 2498 จำเลยบุกรุกเข้ามาตัดต้นผลไม้เสียหายรวม 4,600 บาท ขอให้ขับไล่จำเลยและบริวารและแสดงว่าที่รายนี้เป็นของโจทก์ กับให้จำเลยใช้ค่าเสียหาย 4,600 บาท และดอกเบี้ย
จำเลยต่อสู้ว่าเมื่อ 14-15 ปีมาแล้วจำเลยโก่นสร้างที่ว่างเปล่าทำเป็นสวนขึ้น 1 แปลงและได้ครอบครองตลอดมาจนได้ใบเหยียบย่ำเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2497 และตัดฟ้องว่าเมื่อเดือน 3 พ.ศ. 2497 จำเลยได้จ้างนายแดงถางที่รายนี้ โจทก์หาว่านายแดงบุกรุก เจ้าพนักงานสอบสวนแล้วปล่อย นายแดงและสั่งให้โจทก์ไปฟ้องศาลเรื่องสวนรายพิพาทแต่โจทก์ไม่ฟ้องจนเลยมา 2 ปีเศษแล้ว คดีโจทก์ขาดอายุความ
โจทก์ จำเลยรับกันว่าที่พิพาทคือในวงเส้นสีดำ ของแผนที่กลาง
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าโจทก์มีสิทธิในที่พิพาทดีกว่าจำเลยให้ขับไล่จำเลยและบริวาร และให้จำเลยใช้ค่าเสียหาย 560 บาทกับดอกเบี้ย
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ฟังว่าโจทก์ครอบครองที่พิพาทราว 20 ปีมานี้ซึ่งเป็นเวลาหลังจากใช้ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 4 แล้วคดีต้องบังคับตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์อันว่าด้วยที่ดินมือเปล่า ซึ่งผู้ยึดถือย่อมมีแต่สิทธิครอบครองธรรมดา เมื่อโจทก์ถูกแย่งการครอบครองไปเกินปี ย่อมหมดสิทธิที่จะฟ้องเรียกคืนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1375 ไม่จำต้องวินิจฉัยเรื่องค่าเสียหายต่อไป พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาฟังว่าโจทก์โก่นสร้างที่พิพาทเมื่อราว 20 ปีมานี้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 4 ประกาศใช้เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2475 โจทก์จึงโก่นสร้างที่พิพาทหลังจากประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 4 ประกาศใช้แล้ว โจทก์กล่าวอ้างลอย ๆ ว่าเป็นที่สวน และไม่มีข้อเท็จจริงแสดงให้เห็นได้ว่า ที่พิพาทเป็นที่บ้านที่สวนตามกฎหมายลักษณะเบ็ดเสร็จ คดีต้องบังคับตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 4 ว่าด้วยทรัพย์สินซึ่งในกรณีนี้คือที่ดินมือเปล่า ผู้ยึดถือมีแต่สิทธิครอบครอง หากผู้ครอบครองถูกแย่งการครอบครองโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ผู้ครอบครองต้องฟ้องคดีเพื่อเอาคืนซึ่งการครอบครองนั้นภายใน 1 ปีนับแต่เวลาถูกแย่งการครอบครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1367, 1375 เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยได้เข้าครอบครองที่ดินพิพาทมากว่า1 ปี ก่อนโจทก์ฟ้อง โจทก์ก็หมดสิทธิที่จะฟ้องเรียกที่ดินพิพาทคืนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1375 คดีไม่จำต้องวินิจฉัยปัญหาข้ออื่น ๆ ต่อไป
พิพากษายืน