คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 375/2511

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องกล่าวหาว่า จำเลยซื้อที่ดินของโจทก์ชำระค่าที่ดินยังไม่ครบ แต่ไม่ได้ยกเหตุที่จำเลยชำระค่าที่ดินไม่ตรงตามกำหนดทุกเดือน โจทก์จะยกปัญหาข้อนี้ในชั้นอุทธรณ์ไม่ได้ เพราะมิได้ว่ากล่าวมาแต่ศาลชั้นต้น
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยซื้อที่ดินของโจทก์แล้วผิดสัญญา จึงฟ้องเรียกที่ดินคืนจำเลยให้การต่อสู้ว่าได้ชำระราคาที่ดินให้โจทก์ครบถ้วนแล้ว จึงฟ้องแย้งขอให้บังคับโจทก์จดทะเบียนการซื้อขาย ดังนี้ ฟ้องแย้งเป็นเรื่องเกี่ยวพันกับฟ้องเดิม
ที่ดินไม่มีหนังสือสำคัญสำหรับที่ดิน จำเลยแย่งการครอบครองมาจนถึงวันฟ้องเกินกว่า 1 ปี โจทก์หมดสิทธิจะฟ้องขับไล่จำเลยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1375 (อ้างฎีกาที่ 1694, 1695/2500)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทำสัญญาจะซื้อขายที่ดินของโจทก์ จำเลยไม่ชำระค่าที่ดินตามกำหนดในสัญญา โจทก์บอกเลิกสัญญา ให้จำเลยคืนที่ดิน แต่จำเลยใช้ที่ดินทำสนามม้าได้ปลูกสร้างอาคารปิดกั้นช่องถนนที่โจทก์จำเลยใช้ร่วมกันและทำรั้วเป็นสนามม้าแข่ง ขอให้จำเลยรื้อรั้ว รื้อถอนอาคาร และคืนที่ดินให้โจทก์
จำเลยให้การและฟ้องแย้งว่า จำเลยไม่ได้บุกรุก ที่ดินเป็นของจำเลยซื้อจากโจทก์และจากผู้อื่น จำเลยซื้อที่ดินมากกว่าที่คำนวณ ขอให้โจทก์โอนที่ดินให้แก่จำเลย
โจทก์ให้การแก้ฟ้องแย้งว่า ฟ้องแย้งเป็นคนละเรื่องกับฟ้องเดิม จำเลยเป็นฝ่ายผิดสัญญา ชำระค่าที่ดินไม่ครบ
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยรื้อถอนรั้ว และให้โจทก์โอนกรรมสิทธิ์ในที่ดินให้จำเลย
โจทก์จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นฟ้องรับศาลชั้นต้นว่าจำเลยชำระราคาที่ดินครบถ้วน จำเลยทำสนามเดินวนม้าแข่งรุกล้ำที่ดินโจทก์ แต่โจทก์ฟ้องเกิน ๑ ปี ไม่มีอำนาจฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาที่โจทก์ขอให้ศาลขับไล่จำเลยที่ ๑ ออกจากที่พิพาท คือ โจทก์กล่าวหาว่าจำเลยที่ ๑ ชำระค่าที่ดินให้โจทก์ ๒๓,๓๐๐ บาท ค้างชำระอีก ๒๑,๗๐๐ บาท ไม่ได้ยกเหตุที่จำเลยชำระค่าที่ดินให้โจทก์ไม่ตรงตามกำหนดทุกเดือนขึ้นกล่าวอ้างอาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาเพื่อเลิกสัญญากับจำเลยที่ ๑ ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า โจทก์มิได้ยกปัญหาข้อกฎหมายนี้ขึ้นว่ากล่าวมาแต่ศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ไม่รับวินิจฉัยให้จึงชอบแล้ว
เมื่อโจทก์กล่าวหาว่าจำเลยซื้อที่ดินของโจทก์แล้วผิดสัญญา โจทก์จึงฟ้องเรียกที่ดินคืน จำเลยให้การต่อสู้ว่าได้ชำระราคาที่ดินให้โจทก์ครบถ้วนแล้ว จึงฟ้องแย้งขอให้บังคับโจทก์จดทะเบียนการซื้อขายที่ดินให้ ดังนี้ ย่อมเห็นได้ว่าเป็นเรื่องเดียวเกี่ยวพันกับฟ้องเดิม ฟ้องแย้งของจำเลยชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๑๗๗ วรรค ๓ แล้ว
โจทก์ยอมรับว่า สนามม้านี้มีมาตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๐๔ นับแต่โจทก์อ้างว่าจำเลยแย่งการครอบครองมาจนถึงวันฟ้องกว่า ๑ ปี โจทก์หมดสิทธิจะฟ้องขับไล่จำเลยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๓๗๕ ตามฎีกาที่ ๑๖๙๔, ๑๖๙๕/๒๕๐๐ นายสุรพล อากาศวิภาต กับพวก โจทก์ นายนัว อุ้ยจาก จำเลย
พิพากษายืน

Share