คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3747/2547

แหล่งที่มา : สำนักวิชาการ

ย่อสั้น

ตาม พ.ร.บ.ล้มละลายฯ มาตรา 90/33 ให้สิทธิเจ้าหนี้หักกลบลบหนี้ได้ถ้าเจ้าหนี้ซึ่งมีสิทธิขอรับชำระหนี้ในการฟื้นฟูกิจการเป็นหนี้ลูกหนี้ในเวลาที่มีคำสั่งให้ฟื้นฟูกิจการ เว้นแต่เจ้าหนี้ได้ใช้สิทธิเรียกร้องต่อลูกหนี้ภายหลังที่ศาลมีคำสั่งให้ฟื้นฟูกิจการ ดังนี้ เมื่อผู้คัดค้านเป็นเจ้าหนี้มีสิทธิขอรับชำระหนี้ในการฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้และลูกหนี้มีเงินฝากอยู่กับผู้คัดค้าน โดยผู้คัดค้านรับฝากเงินไว้ก่อนที่ศาลมีคำสั่งให้ฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้ เงินฝากดังกล่าวตกเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้คัดค้านตั้งแต่มีการฝากเงิน ลูกหนี้ผู้ฝากเงินมีสิทธิที่จะถอนเงินฝากไปได้ และผู้คัดค้านมีหน้าที่ต้องคืนเงินให้ครบตามจำนวนที่ขอถอน จึงเป็นกรณีที่ผู้คัดค้านกับลูกหนี้ต่างเป็นหนี้ซึ่งกันและกันอยู่ในเวลาที่ศาลมีคำสั่งให้ฟื้นฟูกิจการ แม้หนี้ที่ผู้คัดค้านมีสิทธิได้รับชำระหนี้จะถูกกำหนดให้ได้รับชำระตามเงื่อนไขหรือเงื่อนเวลาตามแผนฟื้นฟูกิจการ ก็ยังอาจหักกลบลบหนี้ได้เนื่องจากการขอรับชำระหนี้ในการฟื้นฟูกิจการ มาตรา 90/27 บัญญัติให้ผู้คัดค้านซึ่งเป็นเจ้าหนี้อาจขอรับชำระหนี้ในการฟื้นฟูกิจการได้ ถ้ามูลหนี้ได้เกิดขึ้นก่อนวันที่ศาลมีคำสั่งให้ฟื้นฟูกิจการแม้ว่าหนี้นั้นยังไม่ถึงกำหนดชำระหนี้หรือมีเงื่อนไขก็ตาม และแม้ผู้คัดค้านแสดงเจตนาหักกลบลบหนี้ต่อลูกหนี้ภายหลังจากที่ประชุมเจ้าหนี้มีมติยอมรับแผนฟื้นฟูกิจการแต่เป็นช่วงเวลาก่อนที่ศาลจะมีคำสั่งเห็นชอบด้วยแผน ซึ่งเจ้าหนี้ยังไม่ถูกผูกมัดให้ได้รับชำระหนี้ตามเงื่อนไขหรือเงื่อนเวลาที่กำหนดไว้ในแผนตามมาตรา 90/60 วรรคหนึ่ง ผู้คัดค้านจึงมีสิทธิหักกลบลบหนี้ได้

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2543 ให้ฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้และตั้งบริษัทรามคำแหงแพลนเนอร์ จำกัด เป็นผู้ทำแผน ต่อมาวันที่ 2 มีนาคม 2544 ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งตั้งผู้ร้องเป็นผู้ทำแผนคนใหม่
ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า ผู้คัดค้านเป็นเจ้าหนี้รายที่ 153 ซึ่งยื่นคำขอรับชำระหนี้ในการฟื้นฟูกิจการไว้จำนวน 3,060,884,459.47 บาท และลงมติยอมรับแผนฟื้นฟูกิจการลูกหนี้มีบัญชีเงินฝากกับผู้คัดค้าน 2 รายการ จำนวน 411,980.33 บาท และ 6,523.43 ดอลลาร์สหรัฐ ตามลำดับ เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2544 ผู้คัดค้านแจ้งแก่ผู้ร้องว่าได้นำเงินทั้งสองจำนวนดังกล่าวไปหักกลบลบหนี้กับหนี้ที่ลูกหนี้จะต้องชำระแก่เจ้าหนี้ตามแผน แต่ผู้คัดค้านไม่มีสิทธิที่จะหักกลบลบหนี้เนื่องจากผู้คัดค้านยื่นคำขอรับชำระหนี้ไว้โดยมิได้หักกลบลบหนี้เสียก่อนและลงมติยอมรับแผนฟื้นฟูกิจการแล้ว การหักกลบลบหนี้ดังกล่าวส่งผลกระทบโดยตรงต่อสภาพคล่องทางการเงินของลูกหนี้และการปฏิบัติตามแผนฟื้นฟูกิจการในอนาคต ทั้งเงินฝากตามบัญชีดังกล่าวยังไม่ถึงกำหนดชำระคืนแก่ลูกหนี้ ขอให้ผู้คัดค้านคืนเงินทั้งสองจำนวนดังกล่าวพร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันที่ 25 กันยายน 2544 จนกว่าจะชำระคืนแก่ลูกหนี้
ผู้คัดค้านยื่นคำคัดค้านว่า ลูกหนี้ฝากเงินทั้งสองจำนวนกับผู้คัดค้านก่อนที่ศาลมีคำสั่งให้ฟื้นฟูกิจการ ผู้คัดค้านมีสิทธิหักกลบลบหนี้ได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 341 และตามแผนให้สิทธิเจ้าหนี้ในการยึดถือเงินฝากดังกล่าวและสามารถหักกลบลบหนี้กับหนี้ค่าธรรมเนียมและหนี้ทรัสต์รีซีทได้ ทั้งพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 90/33 ไม่ได้กำหนดว่าการหักกลบลบหนี้จะต้องกระทำก่อนยื่นคำขอรับชำระหนี้ ผู้คัดค้านใช้สิทธิโดยสุจริต ขอให้ยกคำร้อง
ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งให้ผู้คัดค้านคืนเงินฝากทั้งสองบัญชีของลูกหนี้พร้อมดอกเบี้ยอัตราเดียวกันกับที่ผู้คัดค้านต้องชำระให้แก่ลูกหนี้สำหรับการฝากเงินนับแต่วันที่หักเงินไปจนกว่าจะส่งมอบคืน
ผู้คัดค้านอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีล้มละลายวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงที่คู่ความไม่อุทธรณ์โต้แย้งฟังได้ว่า หลังจากศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งให้ฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้ ผู้คัดค้านยื่นคำขอรับชำระหนี้ในการฟื้นฟูกิจการในมูลหนี้เลตเตอร์ออฟเครดิต/ทรัสต์รีซีท, ค้ำประกัน และเบิกเงินเกินบัญชีโดยเป็นเจ้าหนี้รายที่ 153 จำนวนเงินที่ขอรับชำระหนี้ 3,060,884,459.47 บาท เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์สอบสวนแล้วมีคำสั่งอนุญาตให้ผู้คัดค้านได้รับชำระหนี้จำนวน 3,059,853,604.82 บาท พร้อมดอกเบี้ยในฐานะเจ้าหนี้มีประกัน ที่ประชุมเจ้าหนี้ลงมติยอมรับแผนฟื้นฟูกิจการเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2544 ลูกหนี้มีเงินฝากอยู่กับผู้คัดค้าน 2 บัญชี ตั้งแต่ปี 2538 และปี 2542 คือ บัญชีเงินฝากประจำเลขที่ 038-06336-1 และบัญชีเงินฝากสกุลเงินต่างประเทศเลขที่ 099-92-00885 มียอดเงิน ณ วันที่ 24 กันยายน 2544 จำนวน 411,980.33 บาท และ 6,523.43 ดอลลาร์สหรัฐ ตามลำดับ ลูกหนี้มอบสมุดบัญชีเงินฝากทั้งสองบัญชีดังกล่าวแก่ผู้คัดค้านเป็นประกันหนี้และยอมให้ผู้คัดค้านเบิกถอนเงินจากทั้งสองบัญชีดังกล่าวมาเป็นส่วนหนึ่งของการชำระหนี้ได้ ต่อมาวันที่ 28 กันยายน 2544 ผู้คัดค้านใช้สิทธิหักกลบลบหนี้โดยนำเงินฝากจากทั้งสองบัญชีดังกล่าวมาชำระหนี้ของลูกหนี้บางส่วน ซึ่งขณะนั้นศาลล้มละลายกลางยังไม่มีคำสั่งเห็นชอบด้วยแผนฟื้นฟูกิจการเนื่องจากมีเจ้าหนี้บางรายร้องคัดค้านต่อศาลรัฐธรรมนูญ มีปัญหาวินิจฉัยตามอุทธรณ์ผู้คัดค้านว่า ผู้คัดค้านมีสิทธิหักกลบลบหนี้ได้หรือไม่ เห็นว่า พระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 90/33 บัญญัติว่า “ถ้าเจ้าหนี้ซึ่งมีสิทธิขอรับชำระหนี้ในการฟื้นฟูกิจการเป็นหนี้ลูกหนี้ในเวลาที่มีคำสั่งให้ฟื้นฟูกิจการเจ้าหนี้นั้นอาจใช้สิทธิหักกลบลบหนี้ได้ เว้นแต่เจ้าหนี้ได้สิทธิเรียกร้องต่อลูกหนี้ภายหลังที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ฟื้นฟูกิจการ” เมื่อข้อเท็จจริงฟังยุติว่าผู้คัดค้านเป็นเจ้าหนี้ที่มีสิทธิได้รับชำระหนี้ในการฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้และลูกหนี้มีเงินฝากอยู่กับผู้คัดค้านตามบัญชีเงินฝากทั้งสองบัญชีดังกล่าว โดยผู้คัดค้านรับฝากเงินไว้ก่อนที่ศาลมีคำสั่งให้ฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้ เงินฝากดังกล่าวตกเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้คัดค้านตั้งแต่มีการฝากเงิน ลูกหนี้ผู้ฝากเงินมีสิทธิที่จะถอนเงินฝากไปได้และผู้คัดค้านมีหน้าที่ต้องคืนเงินให้ครบตามจำนวนที่ขอถอน จึงเป็นกรณีที่ผู้คัดค้านกับลูกหนี้ต่างเป็นหนี้ซึ่งกันและกันอยู่ในเวลาที่ศาลมีคำสั่งให้ฟื้นฟูกิจการ ส่วนที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์และผู้ร้องแก้อุทธรณ์ว่า หนี้ที่ผู้คัดค้านมีสิทธิได้รับชำระหนี้ได้ถูกกำหนดให้ได้รับชำระหนี้ตามเงื่อนไขหรือเงื่อนเวลาตามแผนฟื้นฟูกิจการแล้ว จึงมิใช่หนี้ที่จะถึงกำหนดชำระอีกต่อไป สภาพแห่งหนี้ไม่เปิดช่องให้เจ้าหนี้หักกลบลบหนี้ได้นั้น เห็นว่า ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 90/27 บัญญัติให้ผู้คัดค้านซึ่งเป็นเจ้าหนี้อาจขอรับชำระหนี้ในการฟื้นฟูกิจการได้ ถ้ามูลแห่งหนี้ได้เกิดขึ้นก่อนวันที่ศาลมีคำสั่งให้ฟื้นฟูกิจการแม้ว่าหนี้นั้นยังไม่ถึงกำหนดชำระหรือมีเงื่นไขก็ตาม ลูกหนี้จึงไม่อาจถือเอาประโยชน์แห่งเงื่อนเวลาหรือเงื่อนไขดังที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์และผู้ร้องอ้าง ดังนี้ ผู้คัดค้านจึงใช้สิทธินำเงินฝากทั้งสองบัญชีดังกล่าวของลูกหนี้มาหักกลบลบหนี้กับหนี้ที่ลูกหนี้ค้างชำระแก่ผู้คัดค้านได้ แม้ผู้คัดค้านแสดงเจตนาหักกลบลบหนี้ต่อลูกหนี้ภายหลังจากที่ประชุมเจ้าหนี้มีมติยอมรับแผนฟื้นฟูกิจการ แต่ก็เป็นช่วงเวลาก่อนที่ศาลจะมีคำสั่งเห็นชอบด้วยแผนดังกล่าวซึ่งเจ้าหนี้ยังไม่ถูกผูกมัดให้ได้รับชำระหนี้ตามเงื่อนไขหรือเงื่อนเวลาที่กำหนดไว้ในแผนตามมาตรา 90/60 วรรคหนึ่ง ผู้คัดค้านจึงมีสิทธิหักกลบลบหนี้ได้ ที่ศาลล้มละลายกลางวินิจฉัยว่าการหักกลบลบหนี้กระทำไม่ได้ภายหลังจากที่ประชุมเจ้าหนี้มีมติยอมรับแผนฟื้นฟูกิจการนั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย อุทธรณ์ของผู้คัดค้านฟังขึ้น”
พิพากษากลับ ให้ยกคำร้อง

Share