คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3744/2525

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คำฟ้องเป็นหลักในการพิจารณาพิพากษาคดี ส่วนใบแต่งทนายเป็นเครื่องแสดงว่าทนายความมีอำนาจดำเนินคดีแทนตัวความ เมื่อคำฟ้องระบุชื่อจำเลยไว้ถูกต้อง แม้ในใบแต่งทนายพิมพ์ชื่อจำเลยผิดไป ก็ไม่ทำให้อำนาจการดำเนินคดีของทนายโจทก์ที่มีต่อจำเลยเสียไป

ย่อยาว

คดีนี้สืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นได้พิพากษาให้จำเลยที่ 1, 2, 3, 4ร่วมกันชำระเงินจำนวนหนึ่งแก่โจทก์และให้จำเลยที่ 5 ชำระเงิน 19,200 บาทพร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์ด้วย

ชั้นบังคับคดีจำเลยที่ 5 ร้องต่อศาลว่า จำเลยที่ 5 มิใช่จำเลยในคดีนี้ เพราะใบแต่งทนายของโจทก์มิได้ระบุชื่อจำเลย (ระบุชื่อจำเลยที่ 5 เป็นนางวรรณี คงสกุล ไม่ตรงตามคำฟ้องซึ่งระบุเป็นนางอรนุช ตระกูลคูศรี)ขอให้โจทก์ถอนการบังคับคดีศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้อง

จำเลยที่ 5 อุทธรณ์คำสั่ง

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยที่ 5 ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าคำฟ้องเป็นหลักในการพิจารณาพิพากษาคดีส่วนใบแต่งทนายเป็นเพียงเครื่องแสดงว่าทนายความนั้นมีอำนาจดำเนินคดีแทนตัวความซึ่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 61 เห็นได้ชัดว่าการแต่งตั้งทนายความนั้นมีความประสงค์สำคัญเพื่อแสดงให้เห็นว่าทนายความมีอำนาจดำเนินคดีแทนตัวความผู้แต่งตั้งทนายความเท่านั้น ส่วนชื่อคู่ความนั้นมีความสำคัญน้อย มิฉะนั้นจะมีการตั้งทนายความผู้ได้รับมอบอำนาจทั่วไปหาได้ไม่ เพราะไม่มีทางที่จะระบุชื่อคู่ความอีกฝ่ายหนึ่งไว้ล่วงหน้าในใบแต่งทนายความได้ใบแต่งทนายความนี้ไม่ใช่คำคู่ความเหมือนคำฟ้อง เมื่อคำฟ้องระบุชื่อจำเลยที่ 5 ไว้ถูกต้อง แม้จะพิมพ์ชื่อจำเลยที่ 5 ลงในใบแต่งทนายความผิดไป ก็ไม่ทำให้อำนาจดำเนินคดีของทนายความโจทก์ที่มีต่อจำเลยที่ 5 เสียไป

พิพากษายืน

Share