คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3740/2549

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ทั้งสี่ฟ้องขอให้เพิกถอนสิทธิบัตรการออกแบบผลิตภัณฑ์ผานจานสำหรับรถไถนาที่จำเลยออกให้บริษัท ด. และโจทก์ทั้งสี่ยื่นคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราวให้ศาลอนุญาตให้โจทก์ทั้งสี่ผลิตและจัดจำหน่ายผานจานโดยมิให้ถือว่าเป็นการละเมิดสิทธิบัตรของบริษัท ด ดังนี้ การขอคุ้มครองชั่วคราวตาม ป.วิ.พ. 254 (2) ต้องเป็นกรณีที่โจทก์ขอให้ศาลมีคำสั่งคุ้มครองโจทก์เนื่องจากจำเลยกระทำให้โจทก์ได้รับความเสียหายและเดือดร้อนระหว่างพิจารณาคดี แต่ตามคำร้องของโจทก์ทั้งสี่ผู้ที่ทำให้โจทก์เดือนร้อนคือบริษัท ด. ซึ่งเป็นบุคคลภายนอก ศาลจะมีคำสั่งคุ้มครองโจทก์ทั้งสี่ให้กระทบกระเทือนถึงบุคคลภายนอกและไม่มีโอกาสต่อสู้คดีหาได้ไม่ ส่วนที่โจทก์ทั้งสี่อ้างว่าเป็นเพราะจำเลยออกสิทธิบัตรให้บริษัท ด. เป็นเหตุให้บริษัทดังกล่าวอ้างสิทธิจากสิทธิบัตรมาออกหนังสือห้ามโจทก์ทั้งสี่นั้น การที่จำเลยออกสิทธิบัตรเป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย ทั้งโจทก์ทั้งสี่มิได้อ้างว่าจำเลยร่วมกับบริษัท ด. ออกหนังสือห้ามโจทก์ซื้อขายหรือผลิตผลิตภัณฑ์แต่อย่างใด และในเบื้องต้นบริษัท ด. เป็นผู้ทรงสิทธิบัตรย่อมมีสิทธิแต่ผู้เดียวในการใช้ ขาย เสนอขาย ผลิตภัณฑ์ตามสิทธิบัตร ตาม พ.ร.บ. สิทธิบัตร พ.ศ. 2522 มาตรา 63 ศาลจะอนุญาตให้โจทก์ทั้งสี่กระทำการใด ๆ ที่เป็นการขัดต่อสิทธิของผู้ทรงสิทธิบัตรโดยมิให้ถือว่าเป็นการละเมิดสิทธิบัตรไม่ได้ คำร้องของโจทก์ทั้งสี่ไม่ต้องด้วยบทกฎหมายที่โจทก์จะขอคุ้มครองชั่วคราวได้ตาม พ.ร.บ. จัดตั้งศาลทรัพย์สินทางปัญญาฯ มาตรา 26 ประกอบด้วย ป.วิ.พ. มาตรา 254 (2) ที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางยกคำร้องโจทก์ทั้งสี่โดยมิได้ไต่สวนนั้นชอบแล้ว

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากโจทก์ทั้งสี่ฟ้องขอให้ศาลเพิกถอนสิทธิบัตรเลขที่ 18331 ที่จำเลยออกให้แก่บริษัท ดี.เอ็น. แมชินเนอรี่ (1980) จำกัด โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ระหว่างที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องแก่จำเลยเพื่อยื่นคำให้การ โจทก์ยื่นคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราวโดยขอให้ศาลมีคำสั่งใช้วิธีการชั่วคราวก่อนพิพากษาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 254 (2) อนุญาตให้โจทก์ทั้งสี่มีสิทธิโดยชอบในการผลิตจัดจำหน่ายและใช้ผลิตภัณฑ์ตามสิทธิบัตรโดยให้ถือว่าการกระทำดังกล่าวไม่เป็นการละเมิดสิทธิบัตรของบริษัท ดี.เอ็น.แมชินเนอรี่ (1980) จำกัด เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนที่โจทก์ทั้งสี่จะได้รับจนกว่าศาลจะพิพากษาให้โจทก์ชนะคดี
ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางมีคำสั่งให้ยกคำร้อง ค่าคำร้องเป็นพับ
โจทก์ทั้งสี่อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศวินิจฉัยว่า การขอคุ้มครองชั่วคราวก่อนศาลมีคำพิพากษาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 254 (2) ต้องเป็นกรณีที่โจทก์ขอให้ศาลมีคำสั่งให้คุ้มครองโจทก์เนื่องจากจำเลยกระทำให้โจทก์ได้รับความเสียหายและเดือดร้อนระหว่างการพิจารณาคดี แต่ปรากฏตามคำร้องของโจทก์ทั้งสี่ว่าผู้ที่ทำให้โจทก์ทั้งสี่เดือดร้อนคือ บริษัท ดี.เอ็น.แมชินเนอรี่ (1980) จำกัด ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกมิใช่จำเลยในคดีนี้ ศาลจึงจะมีคำสั่งคุ้มครองสิทธิของโจทก์ทั้งสี่ให้กระทบกระเทือนถึงบริษัท ดี.เอ็น.แมชินเนอรี่ (1980) จำกัด ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกและไม่มีโอกาสต่อสู้คดีหาได้ไม่ ที่โจทก์ทั้งสี่อ้างว่าจำเลยรับรองสิทธิในสิทธิบัตรโดยออกสิทธิบัตรให้บริษัท ดี.เอ็น.แมชินเนอรี่ (1980) จำกัด เป็นเหตุให้บริษัท ดี.เอ็น.แมชินเนอรี่ (1980) จำกัด อ้างสิทธิจากสิทธิบัตรมาออกหนังสือบังคับมิให้โจทก์ทั้งสี่ทำการซื้อขายหรือผลิตผลิตภัณฑ์ตามสิทธิบัตรนั้น เห็นว่า การจำเลยออกสิทธิบัตรให้แก่บริษัท ดี.เอ็น.แมชินเนอรี่ (1980) จำกัด เป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายในฐานะเป็นผู้มีอำนาจพิจารณาออกสิทธิบัตรให้แก่ผู้ขอรับสิทธิบัตรหากสิ่งประดิษฐ์ดังกล่าวมีลักษณะเข้าเงื่อนไขที่จะขอรับสิทธิบัตรได้ ทั้งไม่ปรากฏตามคำฟ้องหรือคำร้องของโจทก์ทั้งสี่ว่า จำเลยได้ร่วมกับบริษัท ดี.เอ็น.แมชินเนอรี่ (1980) จำกัด ออกหนังสือห้ามมิให้โจทก์ทั้งสี่ทำการซื้อขายหรือผลิตผลิตภัณฑ์ตามสิทธิบัตรแต่อย่างใด ส่วนการที่โจทก์ทั้งสี่ขอให้ศาลมีคำสั่งอนุญาตให้โจทก์ทั้งสี่ทำการผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ตามสิทธิบัตรได้โดยมิให้ถือว่าเป็นการละเมิดสิทธิบัตรของบริษัท ดี.เอ็น.แมชินเนอรี่ (1980) จำกัด นั้น ศาลก็มิอาจสั่งได้เพราะในเบื้องต้นบริษัท ดี.เอ็น.แมชินเนอรี่ (1980) จำกัด เป็นผู้ทรงสิทธิบัตรและมีสิทธิผู้เดียวในการใช้ ขายหรือเสนอขายซึ่งผลิตภัณฑ์ตามสิทธิบัตรตามพระราชบัญญัติสิทธิบัตร พ.ศ.2522 มาตรา 63 ดังนั้น ตราบใดที่ยังมิได้มีการเพิกถอนสิทธิบัตร บริษัท ดี.เอ็น.แมชินเนอรี่ (1980) จำกัด ย่อมมีสิทธิห้ามมิให้บุคคลอื่นทำการซื้อขายหรือผลิตได้ ศาลจะอนุญาตให้โจทก์ทั้งสี่กระทำการใด ๆ ที่เป็นการขัดต่อสิทธิของผู้ทรงสิทธิบัตรโดยมิได้ถือว่าเป็นการละเมิดสิทธิบัตรไม่ได้ กรณีตามคำร้องของโจทก์ไม่ต้องด้วยบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่โจทก์จะขอคุ้มครองชั่วคราวก่อนพิพากษาได้ตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศและวิธีพิจารณาคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ พ.ศ.2539 มาตรา 26 ประกอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 254 (2) ที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางมีคำสั่งยกคำร้องโจทก์ทั้งสี่โดยไม่ไต่สวนนั้นชอบแล้ว อุทธรณ์ของโจทก์ทั้งสี่ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมในชั้นนี้ให้เป็นพับ.

Share