แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงานพ.ศ. 2522 มาตรา 27 บัญญัติว่า การยื่นคำฟ้องตลอดจนการ ดำเนินกระบวนพิจารณาใด ๆ ในศาลแรงงานให้ได้รับการยกเว้น ไม่ต้องชำระค่าฤชาธรรมเนียม และตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 161 วรรคสองกำหนดให้ค่าฤชาธรรมเนียมรวมถึงค่าทนายความด้วย ฉะนั้น ในคดีที่ศาลแรงงานพิจารณาพิพากษา คู่ความจึงได้รับการยกเว้นไม่ต้องชำระค่าทนายความให้แก่คู่ความอีกฝ่ายหนึ่ง
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยจ่ายค่าเสียหายเนื่องจากการเลิกจ้างไม่เป็นธรรม 5 เท่า ของเงินเดือนโจทก์ เป็นเงินจำนวน 48,750 บาท สินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าจำนวน 19,500 บาท
จำเลยให้การว่า โจทก์เขียนใบลาออกด้วยความสมัครใจ จำเลยไม่ต้องใช้เงินโจทก์อีก ขอให้ยกฟ้อง
ศาลแรงงานกลางพิจารณาแล้วพิพากษายกฟ้อง ให้โจทก์ใช้ค่าทนายความให้จำเลยเป็นเงินจำนวน 3,000 บาท
โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า “มีปัญหาที่จะต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของโจทก์เพียงข้อเดียวว่า โจทก์ต้องใช้ค่าทนายความจำนวน 3,000 บาท ให้จำเลยหรือไม่ เห็นว่าตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522 มาตรา 27 บัญญัติว่า การยื่นคำฟ้องตลอดจนการดำเนินกระบวนพิจารณาใด ๆ ในศาลแรงงาน ให้ได้รับการยกเว้นไม่ต้องชำระค่าฤชาธรรมเนียม และตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 161 วรรคสอง กำหนดให้ค่าฤชาธรรมเนียมรวมถึงค่าทนายความด้วย ฉะนั้น ในคดีที่ศาลแรงงานพิจารณาพิพากษาคู่ความจึงได้รับการยกเว้นไม่ต้องชำระค่าทนายความให้แก่คู่ความอีกฝ่าย ที่ศาลแรงงานกลางพิพากษาให้โจทก์ใช้ค่าทนายความ 3,000 บาท ให้จำเลยจึงไม่ถูกต้อง อุทธรณ์โจทก์ฟังขึ้น”
พิพากษาแก้เป็นว่า โจทก์ไม่ต้องใช้ค่าทนายความ 3,000 บาทให้จำเลยนอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลแรงงานกลาง
