คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3733/2531

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การโอนการขายสิทธิการเช่าตึกแถวจำเลยจะต้องขอนุญาตจากผู้ให้เช่าก่อนเมื่อไม่ปรากฏว่าผู้ให้เช่ายินยอมให้โอนขายสิทธิการเช่าตึกแถวดังกล่าวก็ยังไม่เป็นการแน่นอนว่าจะสามารถโอนขายสิทธิการเช่าตึกแถวนั้นได้ จำเลยไม่มีทรัพย์สินอื่นใดอีกนอกจากสิทธิการเช่าตึกแถว ถือได้ว่าจำเลยเป็นผู้มีหนี้สินล้นพ้นตัวเมื่อจำเลยเป็นหนี้โจทก์ไม่น้อยกว่า 50,000 บาท โจทก์ย่อมมีสิทธิฟ้องจำเลยให้ล้มละลายได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเป็นหนี้โจทก์ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นเป็นเงินพร้อมดอกเบี้ยและค่าฤชาธรรมเนียม จำเลยไม่มีทรัพย์สินอย่างหนึ่งอย่างใดที่จะพึงยึดมาชำระหนี้ได้ จำเลยมีหนี้สินล้นพ้นตัวขอให้มีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์จำเลยเด็ดขาดและพิพากษาให้ล้มละลาย
จำเลยให้การว่า มิได้มีหนี้สินล้นพ้นตัวและสามารถชำระหนี้ได้ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์จำเลยเด็ดขาด
จำเลยอุทธรณ์
ศาลุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีมีปัญหาวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยว่าจำเลยมีหนี้สินล้นพ้นตัวหรือไม่ โจทก์มีนายนิทัศน์ ธีวารักษ์ ผู้รับมอบอำนาจและเป็นผู้จัดการสาขานครสวรรค์ของโจทก์เป็นพยานเบิกความว่า จำเลยเป็นหนี้โจทก์ตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้นในคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ ๐๐๑/๒๕๒๔ เป็นเงิน ๓๙๒,๑๐๒.๐๑ บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยอัตราร้อยละ ๑๘ ต่อปี จำเลยนำเงินมาชำระให้โจทก์จำนวน ๑๑๐,๐๐๐ บาท โดยชำระครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ ๓ มีนาคม ๒๕๒๖ หลังจากนั้นจำเลยก็ไม่ได้ชำระหนี้ให้โจทก์อีกเลย โจทก์ได้ให้พนักงานของโจทก์ไปทวงถามและมีหนังสือทวงถามให้จำเลยชำระหนี้แล้ว แต่จำเลยไม่ชำระ พยานได้ให้พนักงานของโจทก์ไปยึดทรัพย์สินของจำเลยเพื่อน ๆ มาชำระหนี้แล้ว ปรากฏว่าจำเลยไม่มีทรัพย์สินใดที่จะยึดมาชำระหนี้ได้ ที่จำเลยนำสืบว่า จำเลยสามารถชำระหนี้ให้โจทก์ได้เพราะจำเลยยังมีทรัพย์สินที่จะชำระให้โจทก์คือสิทธิการเช่าตึกแถวเลขที่ ๔๙๐ ถนนโกสีย์ ตำบลปากน้ำโพ อำเภอเมืองนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์ ซึ่งเป็นของวัดโพธารามมีราคาถึง ๑,๕๐๐,๐๐๐ บาท สิทธิการเช่าดังกล่าวจำเลยสามารถโอนให้ผู้อื่นได้ ได้มีผู้มาติดต่อขอซื้อสิทธิการเข่าตึกแถวดังกล่าวจำเลยสามารถโอนให้ผู้อื่นได้ ได้มีผู้มาติดต่อขอซื้อสิทธิการเช่าตึกแถวดังกล่าวจากจำเลยในราคา๑,๒๐๐,๐๐๐ บาท แต่อยู่ระหว่างเจราจากันนั้น ศาลฎีกาเห็นว่า จำเลยเองก็เบิกความรับว่าการขายสิทธิการเช่าตึกแถวดังกล่าวต้องขอนุญาตจากวัดโพธารามผู้ให้เช่าก่อน หากวัดโพธารามยินยอมจึงจะทำการโอนกันได้ แต่จำเลยก็ไม่มีพยานมานำสืบให้รับฟังเป็นพยานหลักฐานได้ว่าวัดโพธารามได้ตกลงยินยอมให้จำเลยโอนขายสิทธิการเช่าตึกแถวดังกล่าวแล้ว เมื่อไม่ปรากฏว่าวัดโพธารามยินยอมให้โอน ก็ยังไม่เป็นการแน่นอนว่าโจทก์จะสามารถโอนขายสิทธการเช่าตึกแถวดังกล่าวได้ นอกจากสิทธิการเช่าตึกแถวดังกล่าวแล้ว จำเลยก็ไม่มีทรัพย์สินอื่นใดอีกที่จะนำมาชำระหนี้ให้แก่โจทก์ จึงถือได้ว่าจำเลยเป็นผู้มีหนี้สินล้นพ้นตัว เมื่อจำเลยเป็นหนี้โจทก์ไม่น้อยกว่า ๕๐,๐๐๐ บาท ซึ่งเป็นหนี้จำนวนแน่นอน โจทก์ย่อมมีสิทธิฟ้องจำเลยให้ล้มละลายได้
พิพากษายืน

Share