แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
เมื่อผู้ร้องอ้างว่าการเลือกตั้งกำนันเป็นไปโดยมิชอบแล้ว ขอให้มีการเลือกตั้งใหม่จึงเป็นกรณีที่ผู้ร้องซึ่งเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งได้ถูกโต้แย้งสิทธิตามกฎหมายแพ่ง ผู้ร้องจึงมีสิทธิที่จะใช้สิทธิในทางศาลขอให้สั่งว่าการเลือกตั้งดังกล่าวเป็นไปโดยมิชอบ และขอให้ศาลสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ได้ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 55 คำร้องได้แสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหา คำขอบังคับทั้งข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาโดยสมบูรณ์แล้ว ส่วนที่ไม่ได้ระบุว่าเจ้าพนักงานผู้ใดในหน่วยเลือกตั้งที่1 ที่ 2 ช่วยเหลือผู้สมัครหมายเลข 2 และเจ้าพนักงานผู้ใดในหน่วยเลือกตั้งที่ 3 ที่ 4 ที่ 5 ไม่ยินยอมให้ผู้ร้องรับรองให้ผู้มีสิทธิลงคะแนนที่มีชื่อนามสกุลผิดพลาดลงคะแนนเสียงได้นั้นเป็นรายละเอียดหาจำเป็นต้องกล่าวในคำร้องไม่ คำร้องไม่เคลือบคลุม
ย่อยาว
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้เพิกถอนการเลือกตั้ง และให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัยจัดให้มีการเลือกตั้งกำนันตำบลป่าแฝก อำเภอกงไกรลาส จังหวัดสุโขทัยใหม่ ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า การเลือกตั้งกำนันตำบลป่าแฝกเป็นไปโดยมิชอบ ให้เพิกถอนเสีย เพื่อให้มีการเลือกตั้งใหม่คำขออื่นให้ยกผู้คัดค้านฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “ข้อเท็จจริงที่ผู้ร้องและผู้คัดค้านนำสืบไม่โต้เถียงกันฟังเป็นยุติว่า เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2524 ทางอำเภอกงไกงลาส จังหวัดสุโขทัย ได้จัดให้มีการเลือกตั้งกำนันตำบลป่าแฝก อำเภอกงไกรลาส แทนคนเก่าซึ่งปลดเกษียณโดยมีผู้สมัครรับเลือกตั้งรวม 4 คนคือหมายเลข 1 นายโดย มั่งจิ๋ว ผู้ร้องที่ 2 หมายเลข 2 นายประเสริฐ เอี่ยมศรีทองหมายเลข 3 นายยงยุทธ พรมอ่วม และหมายเลข 4 นายจำลอง อินทร์จันทร์ผู้ร้องที่ 1 ผลการเลือกตั้งปรากฏว่านายประเสริฐ เอี่ยมศรีทอง หมายเลข 2ได้รับเลือกตั้งเป็นกำนัน ผู้ร้องทั้งสองจึงมายื่นคำร้องว่าการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นไปโดยไม่ถูกต้องและยุติธรรม” ฯลฯ
“ผู้คัดค้านฎีกาว่า ผู้ร้องทั้งสองไม่มีอำนาจร้องขอให้ศาลสั่งว่าการเลือกตั้งกำนันตำบลป่าแฝก อำเภอกงไกรลาส จังหวัดสุโขทัย เมื่อวันที่ 1มิถุนายน 2524 เป็นไปโดยมิชอบและขอให้สั่งผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัยจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ พิเคราะห์แล้วเห็นว่า เมื่อผู้ร้องอ้างว่าการเลือกตั้งใหม่ จึงเป็นกรณีที่ผู้ร้องทั้งสองซึ่งเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้ง ได้ถูกโต้แย้งสิทธิตามกฎหมายแพ่ง ผู้ร้องทั้งสองจึงมีสิทธิที่จะใช้สิทธิในทางศาลร้องขอให้สั่งว่าการเลือกตั้งดังกล่าวเป็นไปโดยมิชอบและขอให้ศาลสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 55 ตามนัยคำพิพากษาฎีกาที่ 2053/2525 คดีระหว่างนายนเรศ แสนวิวัฒน์ ผู้ร้อง นายอำเภอด่านขุนทด นายเจริญ ศรีสุกใส่ นายสวัสดิ์ โคกขุนทดผู้คัดค้าน
ผู้คัดค้านฎีกาต่อมาว่า คำร้องของผู้ร้องเคลือบคลุม พิเคราะห์แล้วเห็นว่า คำร้องของผู้ร้องได้บรรยายไว้โดยแจ้งชัดแล้วว่า ผู้ร้องทั้งสองเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นกำนันตำบลป่าแฝก แต่การเลือกตั้งกำนันครั้งนั้นเป็นไปโดยไม่ชอบไม่ถูกต้อง เพราะเจ้าพนักงานคุมหน่วยเลือกตั้งที่ 1 ที่ 2ช่วยเหลือผู้สมัครรับเลือกตั้งหมายเลข 2 โดยยินยอมให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งรับรองให้ผู้มีสิทธิลงคะแนนเสียงที่มีชื่อและนามสกุลไม่ถูกต้องกับบัญชีรายชื่อ ที่ทางราชการปิดประกาศไว้ให้ได้ใช้สิทธิลงคะแนนเสียงได้แต่เจ้าพนักงานในหน่วยเลือกตั้งที่ 3 ที่ 4 ที่ 5 กลับไม่ยอมให้ผู้ร้องทั้งสองลงชื่อรับรองให้ผู้มีสิทธิลงคะแนนเสียงที่มีชื่อ นามสกุลผิดพลาดลงคะแนนเสียงได้ อันเป็นเหตุให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งหมายเลข 2 ได้รับเลือก ขอให้เพิกถอนการเลือกตั้งดังกล่าว และสั่งให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัยจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ เห็นว่าคำร้องของผู้ร้องได้แสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหา คำขอบังคับทั้งข้ออ้างซึ่งอาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาโดยสมบูรณ์แล้ว ส่วนที่ไม่ได้ระบุว่าเจ้าพนักงานผู้ใดในหน่วยเลือกตั้งที่ 1 ที่ 2 ช่วยเหลือผู้สมัครรับเลือกตั้งหมายเลข 2 และเจ้าพนักงานผู้ใดในหน่วยเลือกตั้งที่ 4ที่ 5 ไม่ยินยอมให้ผู้ร้องทั้งสองรับรองให้ผู้มีสิทธิลงคะแนนเสียงที่มีชื่อนามสกุลผิดพลาดลงคะแนนเสียงได้นั้นเป็นรายละเอียด หาจำเป็นต้องกล่าวในคำร้องไม่ คำร้องของผู้ร้องไม่เคลือบคลุม
ผู้คัดค้านฎีกาข้อสุดท้ายว่า การเลือกตั้งกำนันตำบลป่าแฝก อำเภอกงไกรลาส จังหวัดสุโขทัย เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2524 เป็นไปโดยชอบซึ่งผู้ร้องนำสืบว่า ทางราชการปิดประกาศบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งกำนันไม่ครบ 7 วัน ก่อนวันเลือกตั้ง และกรรมการหน่วยเลือกตั้งที่ 1 ที่ 2ช่วยเหลือผู้สมัครลับเลือกตั้งหมายเลข คือ นายประเสริฐ เอี่ยมศรีทองสำหรับเรื่องการปิดประกาศบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งนั้น นายฉลองสุขแท้ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 1 ตำบลป่าแฝกพยานผู้คัดค้านเบิกความว่านายประเสริฐ เอี่ยมศรีทอง ซึ่งรักษาการแทนกำนันคนเดิมซึ่งครบเกษียณอายุได้มีคำสั่งให้นายฉลองนำบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งไปปิดตามหน่วยเลือกตั้งทุกหน่วย และนายฉลองก็ได้นำบัญชีดังกล่าวไปปิดตามหน่วยเลือกตั้งทุกหน่วยแล้วตั้งแต่วันที่ 21 พฤษภาคม 2524 พิเคราะห์แล้วหากทางราชการไม่ปิดประกาศบัญชีราชชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งให้ครบ 7 วันก่อนวันเลือกตั้ง ผู้ร้องทั้งสองซึ่งรู้ระเบียบข้อบังคับย่อมจะต้องคัดค้านต่อทางราชการอำเภอกงไกรลาสไว้แล้ว เพราะเป็นความเสียหายแก่ผู้ร้องทั้งสองที่ไม่สามารถตรวจดูรายชื่อราษฎรในหมู่บ้านของตนว่า ผู้ใดรายชื่อขาดไปบ้างทั้งปรากฏว่าเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2524 ที่ผู้ร้องที่ 1 กับพวกไปยื่นคำร้องคัดค้านเลือกตั้งครั้งนี้ต่อนายอำเภอกงไกรลาสตามเอกสารหมาย ร.ค.4 ก็มีข้อคัดค้านประการเดียวว่า จำนวนผู้มาลงคะแนนเลือกตั้งมากกว่าจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง คำเบิกความของนายฉลองปราศจากพิรุธ บกพร่องมีน้ำหนักให้เชื่อถือได้ ฟังได้ว่าทางราชการอำเภอกงไกรลาสได้ปิดประกาศบัญชีราชชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งกำนันตั้งแต่วันที่ 21 พฤษภาคม 2524 ซึ่งครบกำหนด 7 วัน ก่อนวันเลือกตั้งถูกต้องแล้ว
ข้ออ้างประการที่สองของผู้ร้องที่ว่า กรรมการในหน่วยเลือกตั้งที่ 1 ที่ 2ช่วยเหลือผู้สมัครรับเลือกตั้งหมายเลข 2 คือนายประเสริฐ เอี่ยมศรีทองนั้นผู้ร้องนำสืบว่าหน่วยเลือกตั้งที่ 1 ที่ 2 หากราษฎรที่มาใช้สิทธิเลือกตั้งมีชื่อหรือนามสกุลผิดพลาดถ้ามีการลงชื่อรับรองก็ให้ผู้นั้นลงคะแนนเลือกตั้งได้แต่หน่วยเลือกตั้งที่ 5 กระทำไม่ได้ พิเคราะห์แล้ว ปรากฏว่าผู้ร้องที่ 1 เบิกความตอนหนึ่งว่า ในหน่วยเลือกตั้งที่ 5 ถ้ามีข้อผิดพลาดเกี่ยวกับชื่อ นามสกุลของผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งกรรมการก็ผ่อนผันให้ออกเสียงเลือกตั้งได้ผู้ร้องที่ 2 ก็เบิกความตรงกันว่าหน่วยเลือกตั้งที่ 3 ที่ 4 ที่ 5 ถ้าชื่อนามสกุลของผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งผิด และกรรมการเชื่อว่าไม่ผิดตัวแล้วก็ให้ลงคะแนนเสียงได้ นายสำเนียง ทองเดช พยานผู้ร้องทั้งสองเบิกความว่า หน่วยเลือกตั้งที่ 3 ที่ 4 พอเวลา 16 นาฬิกากรรมการก็ให้ผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งที่มีชื่อ นามสุกลผิดออกเสียงเลือกตั้งได้พยานผู้ร้องล้วนแล้วแต่เจือสมข้อนำสืบของผู้คัดค้านที่นำสืบว่า กรรมการหน่วยเลือกตั้งห้าหน่วยปฏิบัติถูกต้องเหมือนกัน กล่าวคือหากมีข้อผิดพลาดเล็กน้อยเกี่ยวกับชื่อ นามสกุลหรือเพศของผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง เมื่อกรรมการสอบถามจากผู้ใหญ่บ้านกำนันหรือครูโรงเรียนแล้วเชื่อได้ว่าไม่ผิดตัวก็ให้กรรมการในหน่วยเลือกตั้งนั้น ๆ ลงชื่อรับรองไว้เป็นหลักฐานแล้วให้ผู้นั้นลงคะแนนเลือกตั้งได้ พยานผู้คัดค้านมีน้ำหนักดีกว่าพยานผู้ร้องทั้งสอง เชื่อว่าในคณะกรรมการหน่วยเลือกตั้งทั้งห้าหน่วยปฏิบัติหน้าที่ถูกต้องยุติธรรมเหมือนกันทุกหน่วยมิได้มีการช่วยเหลือผู้สมัครรับเลือกตั้งคนใด แม้จะได้ความว่านายประเสริฐ เอี่ยมศรีทองผู้สมัครรับเลือกตั้งได้ลงชื่อร่วมกับกรรมการผู้หนึ่งก็หาทำให้การรับรองโดยชอบของกรรมการผู้นั้นเสียไปไม่ คำพิพากษาศาลล่างทั้งสองไม่ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกา ฎีกาผู้คัดค้านข้อนี้ฟังขึ้น”
พิพากษากลับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์เป็นว่า ให้ยกคำร้องของผู้ร้อง ค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสามศาลให้เป็นพับ