แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
จำเลยเป็นบรรณาธิการผู้พิมพ์โฆษณาและเจ้าของหนังสือพิมพ์ที่พิมพ์จำหน่ายแพร่หลายแก่บุคคลทั่วไปในเขตจังหวัดอุบลราชธานีและเป็นเจ้าของนามปากกาว่า “ขุนช้าง” จำเลยได้ลงข่าวเกี่ยวกับโจทก์ร่วมซึ่งเป็นผู้กำกับการตำรวจภูธรจังหวัดอุบลราชธานีมีข้อความว่า “ชอบใจที่ พล.อ.สิทธิ จิรโรจน์ ร.ม.ต.มหาดไทยกล่าวว่า ทำไมผู้กำกับจึงมาร้องตอนนี้ ทั้ง ๆ ที่เรื่องมีมานานขุนช้างว่าคงพึ่งคิดวิธีทำอาญาให้เป็นแพ่งได้กระมังจริงไหมครับพ.ต.อ.นิยม ไกรลาศ” อันเป็นข้อความที่เกี่ยวโยงกับกรณีกล่าวหาว่าเจ้าหน้าที่การเงินกองกำกับการตำรวจภูธรจังหวัดอุบลราชธานีซึ่งเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของโจทก์ร่วมยักยอกเงินของทางราชการจำนวนหลายล้านบาทย่อมทำให้บุคคลทั่วไปที่ได้อ่านข้อความที่จำเลยลงโฆษณาในหนังสือพิมพ์ดังกล่าวเข้าใจว่าโจทก์ร่วมรู้เห็นในการทุจริตยักยอกเงินของทางราชการข้อความที่จำเลยลงโฆษณานอกจากจำเลยอ้างถึงข้อความที่พลเอกสิทธิ จิรโรจน์ กล่าวดังกล่าวแล้วจำเลยไม่ได้อ้างถึงข้อความจริงอันใดให้จำเลยแสดงความคิดเห็นเช่นนั้น ทั้งผู้ได้อ่านก็ไม่ได้รู้ถึงความจริงอันควรเชื่อหรือไม่ว่าเป็นดังจำเลยกล่าว แต่จำเลยยืนยันข้อเท็จจริงให้ผู้อ่านหนังสือพิมพ์เชื่อว่าโจทก์ร่วมรู้เห็นในการทุจริต จึงไม่ใช่เป็นการติชมด้วยความเป็นธรรมอันเป็นวิสัยของประชาชนย่อมกระทำ ทั้งไม่เป็นการแสดงความคิดเห็นหรือข้อความใดโดยสุจริตตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 329 ข้อความที่จำเลยลงโฆษณาในหนังสือพิมพ์ดังกล่าวจึงเป็นข้อความหมิ่นประมาทโจทก์ร่วมอันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 328 และเมื่อเป็นความผิดตามมาตรานี้แล้ว ก็ไม่ต้องยกมาตรา 326 ขึ้นปรับบทลงโทษอีก
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326, 328จำเลยให้การปฏิเสธ ระหว่างพิจารณา ผู้เสียหายยื่นคำร้องขอเข้าเป็นโจทก์ร่วม ศาลชั้นต้นอนุญาต ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326, 328 ให้ลงโทษจำคุก2 เดือน ปรับ 2,000 บาท รอการลงโทษจำคุกไว้ 1 ปี ให้รายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติทุก 3 เดือนต่อครั้ง โจทก์ร่วมและจำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงรับฟังได้ในเบื้องต้นว่าขณะเกิดเหตุพันตำรวจเอกนิยม ไกรลาศ โจทก์ร่วมดำรงตำแหน่งผู้กำกับการตำรวจภูธรจังหวัดอุบลราชธานี จำเลยเป็นบรรณาธิการผู้พิมพ์โฆษณาและเจ้าของหนังสือพิมพ์อุบลรัตน์ พิมพ์จำหน่ายแพร่หลายแก่บุคคลทั่วไปในเขตจังหวัดอุบลราชธานี และเป็นเจ้าของนามปากกาว่า “ขุนช้าง” เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2529 หนังสือพิมพ์อุบลรัตน์ ฉบับที่ 54 ลงวันที่ 16-31 มกราคม 2529 ลงข่าวเกี่ยวกับโจทก์ร่วมว่า “ขอบใจที่ พล.อ.สิทธิ จิรโรจน์ร.ม.ต.มหาดไทย กล่าวว่า ทำไมผู้กำกับจึงมาร้องตอนนี้ ทั้ง ๆที่เรื่องมีมานาน ขุนช้างว่า คงพึ่งคิดวิธีทำอาญาให้เป็นแพ่งได้กระมังจริงไหมครับ พ.ต.อ.นิยม ไกรลาศ” ปัญหาที่จะต้องวินิจฉัยมีว่า ข้อความที่จำเลยลงโฆษณาในหนังสือพิมพ์อุบลรัตน์ดังกล่าวเป็นข้อความที่หมิ่นประมาท โจทก์ร่วมหรือไม่ และเป็นการติชมด้วยความเป็นธรรมอันเป็นวิสัยของประชาชนย่อมกระทำหรือไม่ตามที่ผู้พิพากษาศาลชั้นต้นซึ่งพิจารณาคดีนี้ได้อนุญาตให้จำเลยฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงดังกล่าวได้ เห็นว่าข้อความที่จำเลยลงโฆษณาดังกล่าวเกี่ยวโยงกับกรณีกล่าวหาว่าเจ้าหน้าที่การเงินกองกำกับการตำรวจภูธรจังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของโจทก์ร่วมยักยอกเงินของทางราชการเป็นจำนวนหลายล้านบาทย่อมทำให้บุคคลทั่วไปที่ได้อ่านข้อความที่จำเลยลงโฆษณาในหนังสือพิมพ์ดังกล่าวเข้าใจว่าโจทก์ร่วมรู้เห็นในการทุจริตยักยอกเงินของทางราชการ ข้อความที่จำเลยลงโฆษณานอกจากจำเลยอ้างถึงข้อความที่พลเอกสิทธิ จิรโรจน์ กล่าวดังกล่าวแล้ว จำเลยมิได้อ้างถึงข้อความจริงอันใดให้จำเลยแสดงความคิดเห็นเช่นนั้นทั้งผู้ได้อ่านก็มิได้รู้ถึงความจริงอันควรเชื่อหรือไม่ว่าเป็นดังจำเลยกล่าว แต่จำเลยยืนยันข้อเท็จจริงให้ผู้อ่านหนังสือพิมพ์เชื่อว่าโจทก์ร่วมรู้เห็นในการทุจริต จึงมิใช่เป็นการติชมด้วยความเป็นธรรมอันเป็นวิสัยของประชาชนย่อมกระทำ ทั้งไม่เป็นการแสดงความคิดเห็นหรือข้อความใดโดยสุจริตตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 329 ข้อความที่จำเลยลงโฆษณาในหนังสือพิมพ์ดังกล่าวจึงเป็นข้อความหมิ่นประมาทโจทก์ร่วมอย่างเห็นได้ชัด เมื่อจำเลยนำไปลงพิมพ์ แม้จะตั้งเป็นคำถามก็ดี จำเลยควรสำนึกในการกระทำและเล็งเห็นผลของการกระทำของจำเลย การที่จำเลยยืนยันข้อเท็จจริงดังกล่าวถือได้ว่าจำเลยเจตนาหมิ่นประมาทใส่ความโจทก์ร่วมที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดชอบแล้ว ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น แต่การที่ศาลล่างทั้งสองปรับบทลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326 มาด้วยนั้น เห็นว่ายังไม่ถูกต้องเพราะในความผิดฐานหมิ่นประมาทเมื่อจำเลยผิดตามมาตรา 328 แล้วก็ไม่จำต้องยกมาตรา 326 ขึ้นปรับบทลงโทษอีก”
พิพากษาแก้เป็นว่า ไม่ปรับบทลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 326 นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์