แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
นายทะเบียนท้องถิ่นของเทศบาลมีอำนาจสั่งให้เจ้าพนักงานวิสามัญประจำสำนักงานทะเบียนท้องถิ่นซึ่งมีตำแหน่งหน้าที่เป็นล่ามไปทำงานในแผนกสำมะโนครัวถ้าผู้นั้นไปรับเงินสินบน และลงทะเบียนสำมะโนครัวเท็จ ซึ่งอยู่ในหน้าที่ๆ ได้รับมอบ ก็เป็นผิดตามกฎหมายอาญามาตรา 138,230. อ้างฎีกาที่ 515/2480.
ย่อยาว
ได้ความว่าจำเลยเป็นเจ้าพนักงานวิสามัญประจำสำนักงานทะเบียนท้องถิ่นแขวงพระนคร มีตำแหน่งหน้าที่เป็นล่าม นายทะเบียนสั่งให้จำเลยทำหน้าที่รับแจ้งความสำมะโนครัวคนย้ายเข้าออกจากบ้านด้วยมีผู้ให้เงินแก่จำเลยเพื่อให้ช่วยเหลือจัดการเรื่องทะเบียนคนต่างด้าวให้แก่จีนลูกเรือ ซึ่งตามระเบียบจะต้องให้มีสำมะโนครัวทะเบียนท้องถิ่นเสียก่อน จำเลยจึงจัดการไปร้องขอแสดงว่าพวกจีน ๓๐ คนได้เข้าอยู่ในบ้านเลขที่ ๒๗๖๕ ซ. แล้วทำใบย้ายออกจากบ้านนี้ให้ด้วย ล้วนเป็นความเท็จทั้งสิ้น แล้วนำเสนอนายทะเบียนลงนามตามทางการ ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยตามกฎหมายอาญามาตรา ๒๓๐,๑๓๘ และแก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.๒๔๗๗ (ฉะบับที่ ๒) มาตรา ๓.
จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงเช่นศาลชั้นต้น แต่เห็นว่าจำเลยมีตำแหน่งเป็นล่าม รับเงินเดือนตำแหน่งล่ามเป็นแต่นายทะเบียนให้ช่วยรับแจ้งความจำเลยมิได้มีตำแหน่งหน้าที่ ใบแจ้งย้ายสำมะโนครัวที่จำเลยทำปลอมขึ้นถือไม่ได้ว่าเป็นหนังสือราชการตามกฎหมาย พิพากษาแก้ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยตามกฎหมายอาญามาตรา ๑๑๘,๒๒๓.
โจทก์ จำเลยฎีกา ศาลฎีกาเห็นว่าจำเลยเป็นเจ้าพนักงานอยู่ในสำนักงานทะเบียนท้องถิ่น นายทะเบียนย่อมมีอำนาจที่จะสั่งให้จำเลยไปทำงานในแผนกทะเบียนสำมะโนครัว ต้องถือว่าจำเลยเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ในกิจการที่มอบหมายให้จำเลยทำนั้น เมื่อจำเลยรับเงินสินบนและลงทะเบียนสำมะโนครัวเท็จ ซึ่งกิจการนั้นอยู่ในหน้าที่ของจำเลยๆก็ต้องมีผิดตามกฎหมายอาญามาตรา ๑๓๘,๒๓๐ จึงพิพากษาแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ลงโทษจำเลยตามศาลชั้นต้น.