แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
สำเนาป้ายวงกลมแสดงการเสียภาษีเก่าเลอะเลือนเลขตัวรถในสำเนาป้ายวงกลมแสดงการเสียภาษีต่างจากเลขตัวถังอันแสดงว่าเป็นป้ายวงกลมแสดงการเสียภาษีปลอมซึ่งจำเลยตรวจเทียบดูก็จะทราบจำเลยขับรถจักรยานยนต์ที่ติดสำเนาป้ายวงกลมแสดงการเสียภาษีปลอมจึงมีเจตนาเพื่อให้ผู้อื่นเข้าใจว่าเป็นรถจักรยานยนต์ที่ได้เสียภาษีถูกต้องแล้วเป็นการใช้เอกสารปลอม จำเลยรับซื้อรถจักรยานยนต์ของกลางไว้ตั้งแต่ปี2532และใช้รถคันดังกล่าวตลอดมาโดยใช้แผ่นป้ายทะเบียนรถปลอมกับสำเนาป้ายวงกลมแสดงการเสียภาษีปลอมโดยมิได้ติดต่อทำการโอนและแก้ไขแผ่นป้ายทะเบียนและป้ายวงกลมแสดงการเสียภาษีให้ถูกต้องจนถูกจับกุมเมื่อปี2535เป็นการปกปิดซ่อนเร้นมิให้ผู้อื่นทราบว่าเป็นรถจักรยานยนต์ที่ได้จากการกระทำผิดฐานลักทรัพย์เป็นความผิดฐานรับของโจร การที่จำเลยรับรถจักรยานยนต์ไว้โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นทรัพย์ที่ได้มาจากการกระทำผิดฐานลักทรัพย์เป็นการกระทำเกี่ยวกับรถจักรยานยนต์ส่วนหนึ่งและการที่จำเลยใช้เอกสารปลอมนั้นเป็นการกระทำอีกส่วนหนึ่งคนละส่วนกันแม้จะได้กระทำพร้อมกันไปก็หาใช่เป็นกรรมเดียวกันไม่
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกระทำผิดฐานปลอมเอกสาร ฐานใช้เอกสารปลอม และฐานรับของโจร เป็นการกระทำความผิดต่อกฎหมายหลายกรรมขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 265, 268, 357, 91 และริบของกลาง เว้นแต่รถจักรยานยนต์ของกลางให้คืนเจ้าของ
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดฐานใช้เอกสารราชการปลอมอีกกระทงหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 265 ประกอบกับมาตรา 268(ที่ถูกเป็นมาตรา 268 วรรคหนึ่ง) จำคุก 3 ปี กับมีความผิดฐานรับของโจรตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 357 วรรคหนึ่ง จำคุก 5 ปีรวมจำคุก 8 ปี คืนรถจักรยานยนต์ของกลางแก่เจ้าของ ของกลางนอกจากนี้ให้ริบ ข้อหาอื่นให้ยก
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ลงโทษจำเลยฐานใช้เอกสารราชการปลอม จำคุก 1 ปี และฐานรับของโจร จำคุก 2 ปี รวมโทษจำคุก3 ปี นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกา โดยผู้พิพากษาซึ่งลงชื่อในคำพิพากษาศาลอุทธรณ์อนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ป้ายทะเบียนรถของกลางนั้นติดอยู่ที่รถเห็นได้ชัดแจ้งโดยป้ายทะเบียนดังกล่าวไม่มีตราสัญลักษณ์โล่กับเขนหรือตัวอักษรย่อ ขส.อยู่บนป้ายดังกล่าว แผ่นป้ายทะเบียนของกลางมิใช่แผ่นป้ายทะเบียนที่ทางราชการทำขึ้น ดังนั้น จำเลยซึ่งเป็นเจ้าพนักงานตำรวจย่อมทราบดีว่า แผ่นป้ายทะเบียนของกลางมิใช่ของทางราชการทำขึ้น จึงเป็นป้ายทะเบียนปลอม จำเลยนำรถที่มีแผ่นป้ายทะเบียนของกลางปลอมติดประจำอยู่ออกใช้ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าเป็นของปลอม จะอ้างว่าไม่มีเจตนานั้นฟังไม่ขึ้น ส่วนสำเนาป้ายวงกลมแสดงการเสียภาษีของกลางนั้น เป็นสำเนาภาพถ่ายเอกสาร จำเลยรับในบันทึกการจับกุมว่าซื้อรถจักรยานยนต์ของกลางจากชายไม่ทราบชื่อเมื่อปี 2532 ไม่เคยต่อภาษีรถจักรยานยนต์ ไม่มีการโอนทะเบียนให้ถูกต้องตามกฎหมาย ได้ขับรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวจนถูกจับกุมดังนั้น ในขณะใช้รถดังกล่าว จำเลยย่อมจะต้องสังเกตถึงความเก่าตัวอักษรเลอะเลือนเป็นพิรุธ ทั้งเลขตัวรถที่ระบุในสำเนาป้ายวงกลมแสดงรายการเสียภาษีของกลางมีหมายเลขท้าย 02449 ซึ่งต่างจากหมายเลขตัวถัง คือหมายเลข 004376 ซึ่งจำเลยสามารถตรวจเปรียบเทียบดูได้ก็จะทราบว่าไม่ตรงกัน อันแสดงว่า เป็นสำเนาภาพถ่ายป้ายวงกลมแสดงการเสียภาษีปลอม จำเลยขับรถที่ติดสำเนาป้ายวงกลมแสดงเสียภาษีปลอม จึงมีเจตนาเพื่อให้ผู้อื่นเข้าใจว่าเป็นรถจักรยานยนต์ที่ได้เสียภาษีถูกต้องแล้ว อันเป็นการใช้เอกสารปลอมดังฟ้องโจทก์
จำเลยรับซื้อรถจักรยานยนต์ของกลางไว้ตั้งแต่ปี 2532 และใช้รถคันดังกล่าวตลอดมา (ถูกจับกุมปี 2535) โดยใช้แผ่นป้ายทะเบียนรถปลอม กับสำเนาป้ายวงกลมแสดงการเสียภาษีปลอม โดยมิได้ติอต่อทำการโอนและแก้ไขแผ่นป้ายทะเบียนและป้ายวงกลมแสดงการเสียภาษีให้ถูกต้อง จึงเป็นการปกปิดซ่อนเร้นมิให้ผู้อื่นทราบว่าเป็นรถจักรยานยนต์ที่ได้มาจากการกระทำผิดฐานลักทรัพย์ อันเป็นความผิดฐานรับของโจรตามฟ้อง
การที่จำเลยรับรถจักรยานยนต์ไว้ โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นทรัพย์ที่ได้มาจากการกระทำผิดฐานลักทรัพย์ เป็นการกระทำเกี่ยวกับรถจักรยานยนต์ส่วนหนึ่งและการที่จำเลยใช้เอกสารปลอมเป็นการกระทำอีกส่วนหนึ่งเป็นคนละส่วนกัน แม้จะได้กระทำพร้อมกันไป ก็หาใช่เป็นกรรมเดียวกันไม่
พิพากษายืน