แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
แม้จำเลยจะไม่ได้อุทธรณ์โต้เถียงดุลพินิจในการรับฟังคำเบิกความของ จ. และ ว. ประจักษ์พยานโจทก์ว่ามีข้อพิรุธหรือไม่น่าเชื่อถืออย่างไรแต่การที่จำเลยอุทธรณ์โดยกล่าวว่าการที่ ป. ได้โยนถาดทองเหลืองออกมาจากกุฏิของผู้เสียหายเพื่อให้ผู้ที่พบเห็นเกิดความเกรงกลัว และเพื่อที่จะเปิดทางหลบหนีไป ทั้งเมื่อ ป. หลบหนีไปก็มิได้มาเอา ถาดทองเหลืองนั้นไปด้วย ป. มิได้มีเจตนายึดถือเอาถาดทองเหลือง เป็นของตนหรือผู้อื่นโดยทุจริต ป. จึงไม่มีความผิดฐานลักทรัพย์ ทำให้จำเลยซึ่งร่วมไปกับ ป. ไม่มีความผิดฐานลักทรัพย์ไปด้วยนั้น ย่อมเห็นได้ว่าอุทธรณ์ของจำเลยเป็นอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงซึ่ง นำไปสู่ปัญหาข้อกฎหมายโต้แย้งคำพิพากษาศาลชั้นต้นแล้ว แม้จำเลยจะให้การปฏิเสธโดยนำสืบอ้างฐานที่อยู่จำเลยก็ชอบที่จะอุทธรณ์ ในข้อนี้ได้ หาใช่เป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลชั้นต้นแต่ประการใดไม่
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 33, 83, 334, 335
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 334, 335(1)(2) วรรคสาม (ที่ถูกมาตรา 335(1)(3)(4)(7)(8) วรรคสอง),83 จำคุก 2 ปี
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายกอุทธรณ์ของจำเลย
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยมีว่า อุทธรณ์ของจำเลยชอบด้วยกฎหมายแล้วหรือไม่ จำเลยฎีกาว่า ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1 วินิจฉัยว่าอุทธรณ์ของจำเลยมิได้แสดงข้อโต้แย้งหรือคัดค้านคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้ชัดเจนว่าไม่ชอบด้วยกฎหมายประการใดย่อมไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 193วรรคสอง และคดีนี้จำเลยให้การปฏิเสธ โดยนำสืบอ้างฐานที่อยู่อุทธรณ์ของจำเลยจึงเป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลชั้นต้นพิพากษายกอุทธรณ์ของจำเลยเป็นการไม่ชอบนั้น เห็นว่า แม้จำเลยจะไม่ได้อุทธรณ์โต้เถียงดุลพินิจในการรับฟังคำเบิกความของนายจารึกเวชพันธ์ และนายวัลลภ จึงลี้ ประจักษ์พยานโจทก์ว่ามีข้อพิรุธหรือไม่น่าเชื่อถืออย่างไร แต่การที่จำเลยอุทธรณ์โดยกล่าวว่าการที่นายประจวบได้โยนถาดทองเหลืองออกมาจากกุฏิของผู้เสียหายเพื่อให้ผู้ที่พบเห็นเกิดความเกรงกลัว และเพื่อที่จะเปิดทางหลบหนีไปทั้งเมื่อนายประจวบหลบหนีไปก็มิได้มาเอาถาดทองเหลืองนั้นไปด้วย นายประจวบมิได้มีเจตนายึดถือเอาถาดทองเหลืองเป็นของตนเองหรือของผู้อื่นโดยทุจริต นายประจวบจึงไม่มีความผิดฐานลักทรัพย์ ทำให้จำเลยซึ่งร่วมไปกับนายประจวบไม่มีความผิดฐานลักทรัพย์ไปด้วยนั้น ย่อมเห็นได้ว่าอุทธรณ์ของจำเลยเป็นอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงซึ่งนำไปสู่ปัญหาข้อกฎหมายโต้แย้งคำพิพากษาศาลชั้นต้นแล้ว แม้จำเลยให้การปฏิเสธโดยนำสืบอ้างฐานที่อยู่จำเลยก็ชอบที่จะอุทธรณ์ในข้อนี้ได้ หาใช่เป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลชั้นต้นแต่ประการใดไม่ ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายกอุทธรณ์ของจำเลยนั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย ฎีกาของจำเลยฟังขึ้น”
พิพากษายกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1 ให้ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิจารณาพิพากษาใหม่ตามรูปคดี