คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 372/2524

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

โจทก์ จำเลยที่ 1 ที่ 2 ร่วมกันประกันตัวจำเลยในคดีอาญาแล้วผิดสัญญาถูกศาลสั่งปรับ ศาลได้บังคับคดีเอาที่ดินที่โจทก์นำมาประกันขายทอดตลาด ถือได้ว่าโจทก์ได้ชำระค่าปรับในนามของโจทก์กับจำเลยทั้งสองซึ่งต้องรับผิดคนละส่วนเท่าๆ กันตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 296 จำเลยที่ 1 จึงต้องรับผิดชดใช้เงินให้โจทก์ เฉพาะส่วนของจำเลยที่ 1 หนึ่งในสาม

ย่อยาว

ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า โจทก์กับจำเลยทั้งสองต่างเป็นลูกหนี้ร่วมในจำนวนเงินค่าปรับ พิพากษาให้จำเลยทั้งสามชำระเงินให้แก่โจทก์คนละหนึ่งในสามของจำนวนเงิน 247,985 บาท 75 สตางค์ พร้อมด้วยดอกเบี้ย ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนจำเลยที่ 1 ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฏหมายว่า “เมื่อคดีฟังได้ว่า โจทก์กับจำเลยได้ร่วมกันประกันตัวนายพิเชษฐจากศาลอาญาไป และนายพิเชษฐหลบหนีโจทก์และจำเลยทั้งสองผิดสัญญาไม่สามารถส่งตัวนายพิเชษฐต่อศาลอาญาได้ และศาลอาญาได้สั่งปรับตามสัญญาประกันแล้ว โจทก์และจำเลยทั้งสองจึงต้องรับผิดในเงินค่าปรับในฐานะเป็นลูกหนี้ร่วมเป็นเงิน 247,985 บาท 75 สตางค์ ซึ่งได้ชำระเป็นค่าปรับต่อศาล และถือได้ว่าโจทก์ได้ชำระค่าปรับตามจำนวนเงินดังกล่าวในนามของโจทก์กับจำเลยทั้งสองซึ่งต้องร่วมรับผิดในเงินจำนวนนั้นคนละส่วนเท่า ๆ กันตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 296 เมื่อโจทก์ได้ชำระค่าปรับแทนจำเลยทั้งสองไป จำเลยที่ 1 จึงต้องรับผิดชดใช้เงินให้โจทก์เฉพาะส่วนของจำเลยที่ 1 หนึ่งในสามตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น”

พิพากษายืน

Share