คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 371/2517

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยตั้งโรงงานโดยไม่ได้รับใบอนุญาตและประกอบกิจการโรงงานโดยไม่ได้รับใบอนุญาตตามมาตรา 8 และมาตรา 12 อันเป็นความผิดตามมาตรา 43 และมาตรา 44 แห่งพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. 2512การกระทำผิดของจำเลยแยกได้เป็น 2 กระทง ต่างหากจากกันหาใช่เรื่องจำเลยได้กระทำผิดกระทงแรกแล้ว ไม่อาจกระทำความผิดกระทงหลังได้อีกไม่

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยตั้งและประกอบกิจการโรงงานแปรรูปโลหะโดยมิได้รับอนุญาตให้ตั้งและประกอบกิจการโรงงานจากปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมหรือผู้ซึ่งปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมมอบหมายให้ออกใบอนุญาตขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. 2512 มาตรา 8, 12,43, 44 กฎกระทรวง ฉบับที่ 1 (พ.ศ. 2512) ออกตามความในพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. 2512 บัญชีท้ายกฎกระทรวง ฉบับที่ 1 นี้ ลำดับที่ 59และลำดับที่ 60 และให้สั่งให้จำเลยหยุดประกอบกิจการโรงงานจนกว่าจะได้รับใบอนุญาต

จำเลยให้การรับสารภาพ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดฐานตั้งโรงงานโดยไม่ได้รับใบอนุญาตตามพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. 2512 มาตรา 43 ปรับ5,000 บาท ลดเพราะรับสารภาพตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78กึ่งหนึ่ง คงปรับ 2,500 บาท ยกฟ้องโจทก์ในข้อหาประกอบกิจการโรงงานโดยมิได้รับอนุญาต และให้ยกคำขอที่ให้จำเลยหยุดประกอบกิจการโรงงานเสียด้วย

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยฐานประกอบกิจการโรงงานไม่รับอนุญาตอีกกระทงหนึ่งด้วย

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า พระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. 2512 มาตรา 8บัญญัติว่า การตั้งโรงงานต้องได้รับอนุญาตจากปลัดกระทรวงหรือผู้ซึ่งปลัดกระทรวงมอบหมายให้ออกใบอนุญาต ตามหลักเกณฑ์ วิธีการเงื่อนไข และแบบที่กำหนดในกฎกระทรวง และมาตรา 12 บัญญัติว่าเมื่อตั้งโรงงานเสร็จแล้วก่อนเปิดดำเนินงาน ให้ผู้รับใบอนุญาตตั้งโรงงานยื่นคำขอใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงานต่อปลัดกระทรวงหรือผู้อื่นซึ่งปลัดกระทรวงมอบหมายให้ออกใบอนุญาต เห็นว่า บทบัญญัติของกฎหมายทั้งสองมาตราดังกล่าว ได้กำหนดให้ผู้จัดตั้งโรงงานอุตสาหกรรมดำเนินการเป็น 2 ตอนตอนแรกเพื่อให้ทางราชการตรวจตรากำหนดเขตอุตสาหกรรมตามกฎหมายว่าด้วยผังเมือง ตอนสองก็เพื่อป้องกันมิให้โรงงานก่อให้เกิดอันตรายอย่างร้ายแรงต่อสาธารณชน จึงได้กำหนดให้ผู้รับอนุญาตตั้งโรงงานได้แล้วจะต้องได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการโรงงานอีกครั้งหนึ่ง หากผู้ใดไม่ปฏิบัติตามก็มีความผิด สำหรับตอนแรก มาตรา 42 บัญญัติว่า “ผู้ใดตั้งโรงงานโดยไม่ได้รับใบอนุญาตตั้งโรงงานตามมาตรา 8 ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองหมื่นบาท” ส่วนตอนหลัง ผิดตามมาตรา 44 ซึ่งบัญญัติว่า”ผู้ใดประกอบกิจการโรงงานโดยไม่ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงานตามมาตรา 12 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน ปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งให้ผู้ประกอบกิจการโรงงานนั้นหยุดประกอบกิจการโรงงานจนกว่าจะได้รับใบอนุญาต” โดยเฉพาะในตอนหลัง โจทก์ได้ขอให้หยุดประกอบกิจการโรงงานจนกว่าจะได้รับใบอนุญาตด้วย เช่นนี้ เห็นว่าการกระทำความผิดของจำเลย แยกได้ 2 กระทงต่างหากจากกัน และหาใช่เรื่องที่จำเลยได้กระทำผิดกระทงแรกแล้วไม่อาจกระทำผิดกระทงหลังได้อีก

พิพากษาแก้ เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามมาตรา 44 อีกกระทงหนึ่งด้วยให้ลงโทษตามมาตรา 44 ซึ่งเป็นกระทงหนักที่สุด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 รับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามมาตรา 78 การกำหนดโทษให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ และให้จำเลยหยุดประกอบกิจการโรงงานจนกว่าจะได้รับใบอนุญาต

Share