คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3702/2546

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ผู้ร้องอ้างว่าทางเข้าออกตามเอกสารท้ายคำร้องขอตกเป็นทางภาระจำยอมแก่ที่ดินของผู้ร้อง ผู้ร้องเคยขอให้ผู้เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินดังกล่าวไปจดทะเบียนเป็นภาระจำยอมแก่ที่ดินของผู้ร้อง แต่ผู้มีกรรมสิทธิ์ในที่ดินดังกล่าวเพิกเฉย แสดงว่าผู้ร้องถูกโต้แย้งสิทธิตามที่อ้าง ผู้ร้องต้องเสนอคดีต่อศาลเป็นคำฟ้อง มิใช่คำร้องขอ

ย่อยาว

ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้ศาลไต่สวนและมีคำสั่งว่าที่ดินโฉนดเลขที่ ๑๕๓๖๓ ตำบลกกโก อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี เฉพาะส่วนที่เป็นทางเข้าออกที่ดินของผู้ร้องกว้างประมาณ ๓ เมตร ยาวประมาณ ๑๘ เมตร ตกเป็นทางภาระจำยอมแก่ที่ดินของผู้ร้อง
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า คดีนี้เป็นคดีมีข้อพิพาท ผู้ร้องต้องเสนอคดีต่อศาลโดยทำเป็นคำฟ้อง มิใช่คำร้องขอ จึงมีคำสั่งไม่รับคำร้องขอของผู้ร้อง ให้จำหน่ายคดี คืนค่าขึ้นศาลทั้งหมดแก่ผู้ร้อง
ผู้ร้องอุทธรณ์เฉพาะปัญหาข้อกฎหมายโดยตรงต่อศาลฎีกา โดยได้รับอนุญาตจากศาลชั้นต้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๒๓ ทวิ
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า เห็นว่า เมื่อผู้ร้องอ้างว่าทางเข้าออกกว้างประมาณ ๓ เมตร ยาวประมาณ ๑๘ เมตร ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในที่ดินโฉนดเลขที่ ๑๕๓๖๓ ตำบลกกโก อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี ตกเป็นทางภาระจำยอมแก่ที่ดินโฉนดเลขที่ ๖๓๐๒๙ ของผู้ร้อง และเคยขอให้ผู้เป็นเจ้าของกรรมสิทธิที่ดินดังกล่าวไปจดทะเบียนเป็นภาระจำยอมแก่ที่ดินของผู้ร้อง แต่ผู้มีกรรมสิทธิ์ในที่ดินดังกล่าวเพิกเฉยย่อมแสดงว่าผู้ร้องถูกโต้แย้งสิทธิตามที่อ้าง ผู้ร้องต้องเสนอคดีต่อศาลเป็นคำฟ้อง มิใช่คำร้องขอ ที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับคำร้องขอของผู้ร้องจึงชอบแล้ว อุทธรณ์ของผู้ร้องฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ.

Share