แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ผู้ที่จะมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 272(1) จะต้องเป็นผู้กระทำขึ้นด้วย เพียงแต่มีเครื่องทำชื่อ รูปรอยประดิษฐ์ และเครื่องอุปกรณ์ต่างๆ ไว้ไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 272(1)
ผู้ที่มีบล๊อกแบบพิมพ์ประเภทเครื่องมือทำไพ่ปลอมมีความผิดตามพระราชบัญญัติไพ่ พ.ศ.2486 มาตรา 11 เท่านั้น หามีความผิดฐานปลอมเครื่องหมายการค้าของผู้อื่นตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 273 ด้วยไม่
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า ก. จำเลยทำปลอมดวงตราของกรมสรรพสามิตและทำปลอมเครื่องหมายการค้าของกรมสรรพสามิตลงในแม่พิมพ์ไพ่ และจำเลยได้ร่วมกันใช้ดวงตราและเครื่องหมายการค้าดังกล่าวพิมพ์ลงในไพ่และกระดาษห่อไพ่
ข. จำเลยได้ร่วมกันทำและมีไพ่ไว้ในครอบครองเกินกว่า 120 ใบโดยไม่ได้รับอนุญาต
ค. จำเลยได้ร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งแม่พิมพ์ไพ่ผ่องไทยและอุปกรณ์เครื่องมือในการทำไพ่โดยไม่ได้รับอนุญาต
ขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 251, 252, 272, 273, 83 พระราชบัญญัติไพ่ พ.ศ. 2486 มาตรา 5, 8, 11, 14, 16
จำเลยทั้งหกคนให้การปฏิเสธ
ศาลอาญาวินิจฉัยว่า จำเลยที่ 1 ผู้เดียวกระทำผิด พิพากษาให้ลงโทษจำเลยที่ 1 ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 272 และพระราชบัญญัติไพ่ พ.ศ. 2486 มาตรา 8, 11, 14 แต่ให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 272 ซึ่งเป็นบทหนัก จำคุก 6 เดือน จำเลยที่ 2 ถึงที่ 6 ให้ยกฟ้อง
จำเลยที่ 1 อุทธรณ์ว่า การกระทำของจำเลยที่ 1 ควรมีความผิดตามพระราชบัญญัติไพ่ พ.ศ. 2486 แต่สถานเดียว และควรลงโทษปรับสถานเดียว
โจทก์อุทธรณ์ขอให้ลงโทษจำเลยทุกคนตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 272, 273 และพระราชบัญญัติไพ่ พ.ศ. 2486 มาตรา 5, 8,11, 14, 16
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่า จำเลยที่ 1 มีความผิดตามพระราชบัญญัติไพ่ พ.ศ. 2486 มาตรา 8, 11, 14 และ 16 ให้จำคุกจำเลยที่ 1 หนึ่งเดือน ปรับ 500 บาท นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกาว่า จำเลยที่ 1 ควรมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 272, 273 พระราชบัญญัติไพ่ พ.ศ. 2486 มาตรา 5, 8, 11, 14,16 ขอให้ลงโทษจำเลยที่ 1 ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
ศาลฎีกาเห็นว่า ข้อเท็จจริงในคดีฟังได้ว่า ตำรวจจับไพ่ไทยไพ่สี่สี ไพ่ซีเซ็กปลอมได้ที่จำเลย จึงพาจำเลยไปที่บ้านจำเลย ที่บ้านจำเลยตำรวจพบเครื่องอุปกรณ์ทำไพ่ กระดาษทำไพ่ และพบจำเลยที่ 2, 3, 4, 5 กำลังขนเครื่องอุปกรณ์ทำไพ่ขึ้นรถบรรทุกกับค้นบนบ้านได้อุปกรณ์บล๊อกแม่พิมพ์ 6 อัน คูปองปิดห่อไพ่ ฯลฯ ได้พิสูจน์แล้วผู้ชำนาญยืนยันว่าไพ่ของกลางไม่ใช่ของกรมสรรพสามิต และเครื่องอุปกรณ์ต่าง ๆ ทำไพ่ปลอมได้
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การที่ผู้ใดจะมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 272(1) นั้น จะต้องได้ความปรากฏว่าผู้นั้นได้เอาชื่อรูป รอยประดิษฐ์หรือข้อความใด ๆ ในการประกอบการค้าของผู้อื่นมาใช้หรือทำให้ปรากฏที่สินค้า ฯลฯ เพื่อให้ประชาชนหลงเชื่อว่าเป็นสินค้าหรือการค้าของผู้อื่น ข้อความดังกล่าวทำให้เข้าใจได้ว่า ผู้ที่จะมีความผิดตามมาตรานี้จะต้องเป็นผู้กระทำขึ้นด้วย ไม่ใช่เฉพาะแต่ผู้มีเครื่องทำและเครื่องอุปกรณ์ต่าง ๆ ขึ้นไว้เฉย ๆ ก็ผิดมาตรานี้แล้ว ทั้งนี้เพราะผู้ใดมีเครื่องมือการทำไพ่โดยไม่ได้รับอนุญาตก็มีโทษตามพระราชบัญญัติไพ่ พ.ศ. 2486 มาตรา 11 อยู่แล้ว
ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 273 ซึ่งบัญญัติว่า ผู้ใดปลอมเครื่องหมายการค้า ของผู้อื่นซึ่งได้จดทะเบียนแล้ว ไม่ว่าจะได้จดทะเบียนภายในหรือภายนอกราชอาณาจักรต้องระวางโทษ ฯลฯ นั้นก็หมายถึงผู้ทำเครื่องหมายการค้าของผู้อื่นปลอมขึ้นนั่นเองเมื่อปรากฏว่าจำเลยที่ 1 เพียงแต่มีบล๊อกแบบพิมพ์ประเภทเครื่องมือทำไพ่ปลอม จำเลยที่ 1 จึงมีความผิดเพียงตามพระราชบัญญัติไพ่พ.ศ. 2486 มาตรา 11 เท่านั้น หามีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 273 ด้วยไม่ ศาลฎีกาพิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์