คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 273/2507

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยมีเจตนาลักสร้อยคอซึ่งบุตรของผู้เสียหายสวมอยู่พอใช้ตะไกรตัดสร้อยนั้นขาดตกลงยังพื้นดิน ยังมิได้ยึดถือเอาสร้อยนั้นไปก็มีคนบอกให้ผู้เสียหายรู้ตัวและเก็บเอาสร้อยไว้เสียก่อนจะถือว่าจำเลยเอาสร้อยนั้นไป (ดังที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 334) ยังไม่ได้ จำเลยย่อมมีความผิดฐานพยายามลักทรัพย์เท่านั้น

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันเกิดเหตุ เวลากลางคืน จำเลยพกพาอาวุธสนับมือทองเหลือง 1 อันไปในงานกาชาดสวนอัมพร อันเป็นทางสาธารณะและชุมนุมชนที่จัดให้มีขึ้นเพื่อการรื่นเริงและการกุศล โดยไม่มีเหตุสมควรแล้วทำการลักสายสร้อยคอทองคำ 1 เส้นซึ่งมีจี้ทองคำห้อยติดอยู่ของนางเสริมศรีซึ่งสวมอยู่ที่คอเด็กหญิงสุนิสา โดยจำเลยใช้ตะไกรตัดเล็บตัดสายสร้อยขาด ลักเอาทรัพย์ดังกล่าวไป ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335(1)(7), 371, 91

จำเลยให้การรับข้อหาฐานพกสนับมือ แต่ปฏิเสธฐานลักทรัพย์

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดฐานพกอาวุธตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 371 ให้ปรับ 50 บาท รับลดกึ่งคงปรับ 25 บาท สนับมือของกลางให้ริบ ข้อหาฐานลักทรัพย์ให้ยกฟ้อง ตะไกรตัดเล็บของกลางคืนให้จำเลย

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เฉพาะว่า จำเลยมีความผิดฐานลักทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335(1) ด้วย ให้จำคุกจำเลย 2 ปี ตะไกรของกลางริบ โทษปรับที่จำเลยถูกศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษมาแล้วให้จัดการตามมาตรา 29, 30

จำเลยฎีกา (ส่วนโจทก์มิได้ฎีกาโต้เถียงข้อที่ศาลอุทธรณ์ไม่ถือการกระทำของจำเลยเป็นความผิดตามมาตรา 335(1) และ (7)

ศาลฎีกาฟังว่า ตามวันเวลาที่โจทก์หา ผู้เสียหายอุ้มเด็กหญิงสุนิสาบุตรีไปเที่ยวงานกาชาด เด็กหญิงสุนิสาสวมสร้อยคอห้อยจี้ทองคำ ขณะเกิดเหตุสิบตำรวจเอกอุดมและสิบตำรวจโทโอษฐเห็นจำเลยเอื้อมมือไปที่คอเด็กหญิงสุนิสา พอชักมือกลับมาสร้อยก็หล่นไปที่พื้นดิน สิบตำรวจเอกอุดมร้องบอกผู้เสียหายว่าสร้อยคอตกพร้อมกับเข้าไปขอค้นตัวจำเลย ผู้เสียหายก้มดูที่พื้นดินเห็นสายสร้อยตกอยู่ข้างเท้าก็หยิบขึ้นดูมีรอยถูกตัด ตำรวจค้นได้สนับมือทองเหลือง 1 อันและตะไกรตัดเล็บ 1 อันอยู่ในกระเป๋ากางเกงจำเลย จำเลยเป็นคนร้ายใช้ตะไกรตัดสร้อยคอนั้นขาดและตกลงไปที่พื้นดินโดยมีเจตนาลักสร้อยคอนั้น ศาลฎีกาเห็นว่า แม้จำเลยจะตัดสายสร้อยขาดตกลงยังพื้นดินแล้ว แต่จำเลยก็ยังมิได้เข้ายึดถือเอาสายสร้อยนั้นไป เพราะผู้เสียหายรู้ตัวและเก็บเอาไว้ก่อน จะถือว่าจำเลยเอาสายสร้อยนั้นไปยังไม่ได้ จำเลยควรมีความผิดฐานพยายามลักทรัพย์เท่านั้น

พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 335(1) ประกอบด้วยมาตรา 80 ให้จำคุกจำเลย 1 ปี 4 เดือน นอกนั้นคงเป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

Share