คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 37/2495

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องจำเลยหาว่ายักยอกทรัพย์รายพิพาท และทรัพย์รายอื่น แต่ศาลคงพิพากษาว่า จำเลยยักยอกเฉพาะทรัพย์รายอื่น มิได้ยักยอกทรัพย์รายพิพาท ดังนี้ อายุความที่จะต้องในทางแพ่งเกี่ยวกับทรัพย์รายพิพาทมิได้สดุดหยุดลงตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา 51 และ ป.ม.แพ่งฯมาตรา 174 จึงต้องฟ้องเสียภายใน 1 ปี นับแต่วันทำละเมิด

ย่อยาว

โจทก์เคยฟ้องจำเลยหาว่า ยักยอกเครื่องทำน้ำแข็งและทรัพย์อย่างอื่นของโจทก์ ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยบางคนฐานยักยอกทรัพย์อื่น แล้วโจทก์จึงมาฟ้องเรียกค่าเสียหายจากจำเลยในคดีนี้ เนื่องจากเสียหายขาดประโยชน์ จากทรัพย์ที่จำเลยยักยอกไป
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยใช้ราคาเครื่องน้ำแข็งเป็นเงิน ๓๓๐, ๑๒๐,บาท ๑๗ สตางค์ กับดอกเบี้ยร้อยละ ๗ ครึ่งต่อปี
จำเลยทุกคนอุทธรณ์ ศาลอุทรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาคงฟังข้อเท็จจริงตามศาลล่างว่าจำเลยต้องรับผิดในค่าเสียหายดังกล่าวแล้ว แต่คดีเฉพาะจำเลยที่ ๔ ปรากฎว่าได้ถูกฟ้องร่วมกับจำเลยอื่น แต่มิได้ถูกพิพากษาลงโทษในฐานยักยอก-เครื่องทำน้ำแข็งนี้หากถูกลงโทษฐานยักยอกทรัพย์รายอื่น ฉะนั้นอายุความจึงไม่สดุดหยุดลงตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา ๕๑ และ ป.ม.แพ่งฯมาตรา ๑๗๔ และคดีนี้เป็นคดีละเมิด โจทก์ฟ้องความพ้นกำหนด ๑ ปี คดีจึงขาดอายุความตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา ๔๔๘
จึงพิพากษาแก้ศาลอุทธรณ์เฉพาะ ให้ยกฟ้องจำเลยที่ ๔

Share