แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
แม้เงินเปอร์เซ็นต์จากการขายที่ลูกจ้างได้รับมิได้กำหนดไว้ตายตัวโดยขึ้นอยู่กับสินค้าที่ขายได้แต่ละเดือนซึ่งไม่เท่ากัน แต่การจ่ายเงินเปอร์เซ็นต์ในการขายนี้จ่ายประจำทุกเดือนตามผลงานของลูกจ้าง มิใช่เป็นครั้งคราวย่อมถือได้ว่าเป็นเงินที่จ่ายตอบแทนการทำงาน จึงเป็นค่าจ้างตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงาน
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยจ้างโจทก์เป็นลูกจ้างประจำ จำเลยเลิกจ้างโจทก์โดยจ่ายค่าชดเชยให้บางส่วนไม่นำเอาค่าเปอร์เซ็นต์จากการขายมาคิดเป็นค่าชดเชยขอให้จำเลยจ่ายค่าชดเชยโดยเอาค่าเปอร์เซ็นต์จากการขายมาคำนวณด้วย
จำเลยให้การว่า เงินเปอร์เซ็นต์จากการขายไม่ใช่ค่าจ้าง จะนำมาคำนวณค่าชดเชยไม่ได้ ขอให้พิพากษายกฟ้อง
ศาลแรงงานกลางพิพากษาให้จำเลยจ่ายค่าชดเชยแก่โจทก์โดยเอาเงินเปอร์เซ็นต์จากการขายมาเป็นฐานคำนวณค่าชดเชยด้วย
จำเลยอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า แม้เงินเปอร์เซ็นต์จากการขายที่โจทก์ได้รับมิได้กำหนดไว้เป็นการตายตัว โดยขึ้นอยู่กับการขายสินค้าที่โจทก์ขายได้แต่ละเดือนซึ่งไม่เท่ากัน แต่โดยลักษณะการจ่ายเงินเปอร์เซ็นต์ในการขายแก่โจทก์ก็เป็นการจ่ายประจำทุกเดือนตามผลงาน มิใช่เป็นครั้งคราว ย่อมถือได้ว่าเป็นเงินที่จำเลยจ่ายให้แก่โจทก์เป็นการตอบแทนการทำงาน จึงเป็นค่าจ้างตามความหมายของประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงานต้องนำมารวมเป็นฐานคำนวณค่าชดเชยด้วย
พิพากษายืน