แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องจำเลยต่อศาลแขวงโดยบรรยายฟ้องว่า จำเลยเข้าไปในเคหสถานของผู้เสียหายโดยไม่มีเหตุอันสมควรและด่าผู้เสียหาย การกระทำของจำเลยเป็นการรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ของผู้เสียหายโดยปกติสุข จำเลยให้การว่าได้เข้าไปในบ้านของผู้เสียหายเพื่อพูดขอยืมเงิน เป็นเรื่องที่จำเลยกล่าวอ้างว่าเข้าไปในเคหสถานของผู้เสียหายโดยมีเหตุอันสมควรอันเป็นคำให้การปฏิเสธและเมื่อจำเลยให้การต่อไปว่า ไม่มีเงินต่อสู้คดีขอรับสารภาพตามฟ้องโจทก์ จึงต้องถือว่าจำเลยให้การปฏิเสธ ศาลแขวงชอบที่จะสั่งให้โจทก์รับตัวจำเลยคืนเพื่อดำเนินการต่อไป
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้เข้าไปในบ้านอันเป็นเคหสถานของผู้เสียหายโดยไม่มีเหตุอันสมควร แล้วจำเลยด่าผู้เสียหายเพราะไม่พอใจที่ผู้เสียหายไม่ให้ยืมเงิน การกระทำของจำเลยเป็นการรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ของผู้เสียหายโดยปกติสุขขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 362, 364
จำเลยให้การว่า จำเลยเป็นลูกจ้างเก่าของผู้เสียหาย จำเลยเข้าไปในบ้านผู้เสียหายพูดขอยืมเงิน ผู้เสียหายไม่ให้ยืม จำเลยจึงด่าผู้เสียหาย จำเลยไม่มีเงินต่อสู้คดี ขอรับสารภาพผิดตามฟ้อง
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า การกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดฐานบุกรุก พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า แม้ผู้ต้องหาจะรับสารภาพแต่ก็ไม่ได้รับเต็มตามฟ้องและโจทก์มิได้แถลงว่าไม่ติดใจสืบพยาน ศาลชั้นต้นจำต้องคืนผู้ต้องหาให้แก่โจทก์เพื่อดำเนินการต่อไป พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้โจทก์รับผู้ต้องหาคืนเพื่อดำเนินการต่อไป
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยเข้าไปในเคหสถานของผู้เสียหายโดยไม่มีเหตุอันสมควร อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 364 ตอนหนึ่ง กับบรรยายฟ้องว่าการที่จำเลยเข้าไปในเคหสถานของผู้เสียหายแล้วด่าผู้เสียหาย เป็นการรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ของผู้เสียหาย อันเป็นความผิดตามมาตรา 362 อีกตอนหนึ่ง ข้อที่จำเลยให้การว่า จำเลยเป็นลูกจ้างเก่าของผู้เสียหาย จำเลยเข้าไปในบ้านผู้เสียหายพูดขอยืมเงินนั้น เป็นเรื่องที่จำเลยกล่าวอ้างว่าเข้าไปในเคหสถานของผู้เสียหายโดยมีเหตุอันควร จึงเป็นคำให้การปฏิเสธ และข้อที่จำเลยให้การว่า จำเลยไม่มีเงินต่อสู้คดี ขอรับสารภาพผิดตามฟ้องนั้น ก็มิใช่เป็นเรื่องที่จำเลยรับสารภาพเพราะได้กระทำความผิด หากจำเลยมีเงินต่อสู้คดีก็อาจจะไม่ให้การรับสารภาพ จึงต้องถือว่าจำเลยให้การปฏิเสธ ศาลชั้นต้นชอบที่จะสั่งให้โจทก์รับตัวจำเลยคืนเพื่อดำเนินการต่อไป ตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงและวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวง พ.ศ. 2499 มาตรา 20 (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2417มาตรา 10
พิพากษายืน