แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยซื้อบ้านและที่ดินจากโจทก์โดยทำสัญญากู้เงินที่ยังค้างชำระให้ไว้ ต่อมาโจทก์ฟ้องเรียกเงินกู้ซึ่งเป็นค่าที่ดินและบ้านดังกล่าวจนชนะคดีและคดีถึงที่สุด การซื้อขายที่ดินและบ้านระหว่างโจทก์กับจำเลยยังมิได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่จึงยังไม่เป็นการซื้อขายเสร็จเด็ดขาด แม้จำเลยอาจฟ้องร้องให้บังคับตามข้อตกลงซื้อขายได้เนื่องจากได้ชำระหนี้บางส่วนแล้ว แต่กรรมสิทธิ์ในที่ดินและบ้านยังคงเป็นของโจทก์อยู่ เมื่อโจทก์ไม่ประสงค์ที่จะให้จำเลยอยู่ในที่ดินและบ้านต่อไป โจทก์ก็มีสิทธิฟ้องขับไล่จำเลยได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยตกลงซื้อบ้านและที่ดินจากโจทก์โดยชำระเงินดาวน์ 10 เปอร์เซ็นต์ ส่วนที่เหลือได้ทำเป็นสัญญากู้ให้ไว้ ต่อมาโจทก์ฟ้องบังคับให้จำเลยชำระเงินกู้ตามสัญญาคดีถึงที่สุดแล้ว จำเลยทั้งสองไม่มีสิทธิจะอยู่อาศัยในที่ดินและบ้านดังกล่าวอีก จึงขอให้บังคับจำเลยและบริวารออกไปจากที่ดินและบ้านของโจทก์และชำระค่าเสียหาย
จำเลยให้การว่า ได้ซื้อที่ดินและบ้านจากโจทก์โดยชำระราคาครบถ้วนแล้วแต่ยังไม่ได้โอนกรรมสิทธิ์กันทางทะเบียน โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลย
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า จำเลยทำสัญญากู้เงินโจทก์เพื่อชำระหนี้ค่าที่ดินและบ้านแก่โจทก์จนถูกฟ้องบังคับชำระหนี้เงินกู้ดังกล่าวแล้ว โจทก์ไม่มีสิทธิฟ้องขับไล่จำเลยและเรียกค่าเสียหาย พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้จำเลยและบริวารออกไปจากที่ดินและบ้านของโจทก์กับให้ชำระค่าเสียหายแก่โจทก์
จำเลยฎีกา
ปัญหาวินิจฉัยมีว่า การที่โจทก์ใช้สิทธิฟ้องเรียกเงินกู้ซึ่งเป็นค่าที่ดินและบ้านจากจำเลยจนชนะคดีและคดีถึงที่สุดแล้วนั้น โจทก์จะมีสิทธิฟ้องขับไล่จำเลยอีกหรือไม่
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การซื้อขายที่ดินและบ้านพิพาทระหว่างโจทก์กับจำเลยนั้นยังไม่เป็นการซื้อขายเสร็จเด็ดขาด เพราะยังมิได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่แม้จำเลยอาจฟ้องร้องให้บังคับตามข้อตกลงซื้อขายได้เนื่องจากได้ชำระหนี้บางส่วนแล้วแต่กรรมสิทธิ์ในที่ดินและบ้านยังคงเป็นของโจทก์อยู่ เมื่อโจทก์ไม่ประสงค์ที่จะให้จำเลยอยู่ในที่ดินและบ้านต่อไป โจทก์ก็มีสิทธิฟ้องขับไล่จำเลยได้
พิพากษายืน