คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 369/2499

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์บรรยายฟ้องว่า “จำเลยมิได้ตั้งใจปฏิบัติราชการให้เป็นไปด้วยดี เว้นการอันควรปฏิบัติตามหน้าที่และมิได้ดำเนินการตามระเบียบแบบแผนของกรมไปรษณีย์ ผู้ซึ่งเป็นนายจ้างได้วางไว้ เพื่อปฏิบัติเกี่ยวกับการเก็บและรักษาเงินรายได้ของรัฐบาลดังกล่าวแล้วเป็นเหตุให้นายนัดนายไปรษณีย์ จังหวัดระนองทำการทุจริตยักยอกเงินไปเป็นประโยชน์ส่วนตัวเสียเพราะการกระทำของจำเลยทั้งสองดังกล่าวแล้วข้างต้น ฯลฯ” ทั้งคำฟ้องของโจทก์มิได้บรรยายไว้ในตอนใดเลยว่าจำเลยได้กระทำอย่างไรอันเป็นการบกพร่องต่อหน้าที่จึงเป็นเหตุให้นายไปรษณีย์ยักยอกเอาเงินไปได้ถือว่าฟ้องโจทก์ไม่มีประเด็นที่จำเลยจะต่อสู้คดีให้ถูกต้องได้เป็นฟ้องเคลือบคลุม.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องและยื่นคำร้องเพิ่มเติมแก้ฟ้องว่าเดิมจำเลยทั้งสองนี้รับราชการเป็นลูกจ้างของรัฐบาลแห่งประเทศไทยเป็นข้าราชการพลเรือนรัฐพานิชย์ มีตำแหน่งเป็นพนักงานไปรษณีย์โทรเลขกระทรวงคมนาคม ประจำทำงานอยู่ที่ทำการไปรษณีย์จังหวัดระนอง มีหน้าที่รับผิดชอบเงินรายรับจ่ายร่วมกับนายนัก รุ่งทับพวก นายไปรษณีย์ด้วย เมื่อระหว่างวันที่ ๑ สิงหาคม ๒๔๙๓ ถึงวันที่ ๓ สิงหาคม ๒๔๙๔ นายนัก รุ่งทับพวงยักยอกเงินรายได้ของที่ทำการไปรษณีย์จังหวัดระนองไปเป็นเงิน ๙๓,๘๓๙.๔๒ บาท ทั้งนี้เป็นเพราะจำเลยทั้งสองคนมิได้ปฏิบัตราชการตามระเบียบแบบแผนของกรมไปรษณีย์อันเกี่ยวกับการเก็บรักษาเงินรายได้ของรัฐบาล คือการรับและจ่ายเงินอยู่ในอำนาจของนายไปรษณีย์ นายเพียร รัชนิพนธ์ มีหน้าที่เป็นผู้ช่วยนายไปรษณีย์อีกตำแหน่งหนึ่ง มีหน้าที่ช่วยราชการต่าง ๆ ตามระเบียบแบบแผนของกรมไปรษณีย์โทรเลข การปฏิบัติราชการเกี่ยวกับการเงินของที่ทำการไปรษณีย์จังหวัดระนองมีตู้เซฟ ๑ ตู้ใช้สำหรับเก็บเงินสดไม่เกิน ๑๐,๐๐๐ บาท รวมทั้งเก็บเอกสารต่าง ๆ ที่เป็นตัวเงินด้วย ถ้าเกิน ๑๐,๐๐๐ บาท ต้องนำส่งคลังจังหวัดรักษา กุญแจสำหรับตู้เซฟมี ๓ ดอกมีกรรมการ ๓ นายเป็นผู้รักษาร่วมกันคือ นายนัถุ รุ่งทับพวง นายเพียร รัชนิพนธ์ และนายอภิชาติ อุทัยวรรณ กรรมการทั้ง ๓ คนนี้รักษากุญแจคนละดอกทุกวัน เมื่อเปิดหรือปิดที่ทำการกรรมการทั้งสามนายนี้จะต้องร่วมกันเปิดและปิดตู้เซฟและตรวจนับเงินสดที่คงเหลือตามบัญชีเงินสดและตามบัญชีหลักฐานสนับสนุน เมื่อตรวจนับเงินสดกับบัญชีเงินสดและตามบัญชีหลักฐานสนับสนุนถูกต้องตรงกันแล้วกรรมการทั้งสามนายต้องลงชื่อเป็นหลักฐานในบัญชีเงินสด เงินรายได้ต่าง ๆ ประจำวันของที่ทำการไปรษณีย์ทั้งหมด ในวันหนึ่ง ๆ ต้องส่งมอบให้นายนัถุ นายไปรษณีย์พร้อมทั้งบัญชีเงินสดและบัญชีหลักฐานสนับสนุนกับตัวเงินด้วยทุกวันไปกรรมการผู้รักษากุญแจทั้งสามนายนี้มีหน้าที่จะต้องรับผิดชอบเกี่ยวกับการเงินทุกประเภทร่วมกันเมื่อเกิดการสูญหายขึ้น จำเลยทั้งสองนี้มิได้ปฏิบัติราชการตามระเบียบแบบแผนคำสั่งและข้อบังคับที่กรมไปรษณีย์ได้วางไว้เพื่อเป็นหลักสำหรับปฏิบัติราชการให้เป็นไปด้วยดี เว้นการอันควรปฏิบัติตามหน้าที่และมิได้ดำเนินการตามระเบียบแบบแผนของกรมไปรษณีย์ผู้เป็นนายจ้างได้วางไว้เพื่อปฏิบัติเกี่ยวกับการเก็บและรักษาเงินรายได้ของ++รัฐบาลเป็นเหตุให้นายนัถุ รุ่งทับพวงยักยอกเอาไปได้ ขอให้ใช้เงินที่นายนัถุยักไปพร้อมดอกเบี้ยนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะใช้เงินเสร็จ
จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธความผิดต่อสู้ว่าได้ปฏิบัติหน้าที่ของจำเลยโดยถูกต้องตามระเบียบข้อบังคับแล้วและตัดฟ้องว่าฟ้องโจทก์เคลือบคลุม จำเลยมิได้เป็นลูกจ้างรัฐบาล และมิได้ทำผิดสัญญาจ้างฟ้องของโจทก์ขาดอายุความฐานละเมิด เมื่อจำเลยปฏิบัติหน้าที่โดยชอบแล้วไม่ต้องรับผิดร่วมกับนายนัถุ
ศาลชั้นต้นงดสืบพยานโจทก์จำเลยเห็นว่าจำเลยเป็นข้าราชการอยู่ในฐานะเสมียนและลูกจ้างของรัฐบาลแต่ไม่ใช่ลูกจ้างของรัฐบาลแห่งประเทศไทย และฟ้องไม่แสดงให้เห็นชัดถึงรายละเอียดว่ามีระเบียบแบบแผนคำสั่งข้อบังคับว่าอย่างไรจึงพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาประชุมปรึกษาแล้วฟ้องโจทก์เพียงแต่กล่าวว่าจำเลยมิได้ตั้งในปฏิบัติราชการให้เป็นไปด้วยดีเว้นการอัน ควรปฏิบัติตามหน้าที่และมิได้ดำเนินการตามระเบียบแบบแผนของกรมไปรษณีย์ผู้ซึ่งเป็นนายจ้างได้วางไว้เพื่อปฏิบัติเกี่ยวกับการเก็บและรักษาเงินรายได้ของรัฐบาลดังกล่าวแล้ว เป็นเหตุให้นายนัถุ นายไปรษณีย์จังหวัดระนองทำการทุจริตยักยอกเงินไปเป็นประโยชน์ส่วนตัวเสีย เพราะการกระทำของจำเลยทั้งสองดังกล่าวแล้วข้างต้น คำฟ้องของโจทก์มิได้บรรยายไวในตอนใดเลยว่าจำเลยได้กระทำอย่างไรอันเป็นการบกพร่องต่อหน้าที่ จึงเป็นเหตุให้นายนัถุ รุ่งทับพวงยักยอกเอาเงินไปได้ ฟ้องโจทก์จึงไม่มีประเด็นที่จำเลยจะต่อสู้คดีให้ถูกต้องได้ ศาลอุทธรณ์เห็นว่าฟ้องโจทก์อยู่ในลักษณะเคลือบคลุมนั้นชอบแล้ว
จึงพิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้นให้ยกเสีย.

Share