แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
สัญญาแบ่งมฤดกเป็นเรื่องหลักฐานไม่ใช่แบบ,ทายาทแห่งกองมฤดกทำสัญญาแบ่งมฤดกกัน แต่ได้ลงลายมือชื่อไว้ในช่องพะยาน ดังนี้พอถือไ้ว่าเป็นหลักฐานเพียงพอที่จะผูกพันผู้ลงลายมือชื่อนั้น,
ประมวลวิธีพิจารณาแพ่ง ม.182 ประเด็น
โจทก์ฟ้องเรียกทรัพย์มฤดกจำเลยให้การว่าฟ้องโจทก์ขาดอายุความศาลอุทธรณ์ตัดสินว่าโจทก์ได้ปกครองมฤดกรายนี้ร่วมกันมากับจำเลยดังนี้ไม่เรียกว่าศาลอุทธรณ์ตัดสินนอกประเด็น
ย่อยาว
โจทก์จำเลยพิพาทษากันด้วยเรื่องมฤดกของบิดา
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาต้องกันว่าโจทก์มีส่วนได้ในเงินที่พิพาท ๑ ใน ๘
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาตัดสินว่าเมื่อโจทก์ฟ้องจำเลยต่อสู้ว่าคดีโจทก์ขาดอายุความ และศาลอุทธรณ์ได้วินิจฉัยว่าโจทก์จำเลยได้ปกครองมฤดกร่วมกันมาคดีจึงไม่ขาดอายุความตาม ม.๑๗๕๔ แห่งประมวลแพ่งฯ นั้นเห็นว่าศาลอุทธรณ์มีอำ-นาจหยิบยกข้อเท็จจริงขึ้นวินิจฉัยดังนั้น-ได้เพราะอยู่ในประเด็นว่าฟ้องโจทก์ขาดอายุความหรือไม่ ส่วนฎีกาของจำเลยที่ว่าสัญญาแบ่งมฤดกมิได้ทำตามแบบแห่ง ม.๑๗๕๐ วรรค ๒ นั้นเห็นว่ามาตราที่กล่าวเป็นเรื่องหลักฐาน เมื่อปรากฎว่ามีลายมือชื่อจำเลยในสัญญาแม้จะลงในฐานเป็นพะยาน ก็เป็นหลักฐานเพียงพอที่จำเลยจะผูกพันรับผิดตามนั้น จึงพิพากษายืนตามให้ยกฎีกาจำเลย