แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
ภายหลังที่โจทก์ยื่นคำขออนุญาตปลูกสร้างอาคารต่อจำเลยแล้ว ได้มีประกาศกระทรวงมหาดไทย กำหนดบริเวณห้ามทำการก่อสร้างอาคารในบางส่วนของตำบล ซึ่งรวมถึงบริเวณที่โจทก์ขออนุญาตปลูกสร้างอาคารด้วย จำเลยจึงมีคำสั่งไม่อนุญาต ดังนี้เมื่ออาคารที่โจทก์ขออนุญาตปลูกสร้าง ต้องห้ามมิให้ก่อสร้างตามประกาศกระทรวงมหาดไทยดังกล่าว จึงเป็นกรณีที่ไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ก่อสร้างได้ ถือว่าจำเลยปฏิบัติหน้าที่ราชการตามอำนาจหน้าที่โดยชอบด้วยกฎหมาย ฉะนั้นคำวินิจฉัยของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ที่ไม่อนุญาตยืนตามคำสั่งจำเลย จึงเป็นคำวินิจฉัยที่ชอบด้วยกฎหมายเช่นกัน แม้คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์จะมีคำวินิจฉัยอุทธรณ์ไม่เสร็จภายใน 60 วัน ก็มิใช่เหตุที่จะทำให้คำสั่งนั้นไม่ชอบด้วยกฎหมาย.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ยื่นคำขออนุญาตปลูกสร้างอาคารที่ตำบลป่าตองอำเภอกระทู้ จังหวัดภูเก็ต คณะกรรมการสุขาภิบาลออกไปตรวจสอบสถานที่แล้วรายงานให้จำเลยเพื่อดำเนินการพิจารณาอนุมัติจำเลยกลับมีหนังสือแจ้งให้โจทก์ทราบว่าไม่สามารถอนุญาตให้โจทก์ปลูกสร้างอาคารได้โจทก์เห็นว่าคำสั่งของจำเลยเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบ เพราะจำเลยมิได้มีคำสั่งภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด โจทก์อุทธรณ์คำสั่งของจำเลยต่อคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ต่อมาคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ได้วินิจฉัยอุทธรณ์ของโจทก์ว่าคำสั่งของจำเลยที่ไม่อนุญาตให้โจทก์ปลูกสร้างอาคารชอบแล้ว โจทก์เห็นว่าคำวินิจฉัยของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะมิได้พิจารณาให้เสร็จภายใน 30 วัน ขอให้ศาลพิพากษาหรือมีคำสั่งเพิกถอนคำสั่งของประธานกรรมการสุขาภิบาลป่าตองและเพิกถอนคำวินิจฉัยอุทธรณ์ของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ในเขตเทศบาลและเขตสุขาภิบาลจังหวัดภูเก็ต และให้จำเลยอนุญาตให้โจทก์ดำเนินการก่อสร้างอาคารตามคำขอ ได้หากจำเลยไม่ปฏิบัติตามให้ถือเอาคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลแทนการแสดงเจตนาของจำเลย
จำเลยให้การว่า โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องขอให้ศาลพิพากษาเพิกถอนคำวินิจฉัยอุทธรณ์ ของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ จังหวัดภูเก็ตเพราะโจทก์มิได้ยื่นฟ้องคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ จังหวัดภูเก็ตด้วย คำสั่งของจำเลยที่ไม่อนุญาตให้โจทก์ปลูกสร้างอาคารชอบแล้วเพราะคำขอของโจทก์ต้องห้ามตาม ประกาศกระทรวงมหาดไทย ฉบับลงวันที่ 10 มิถุนายน 2528 และกฎกระทรวงฉบับที่ 15 (พ.ศ. 2529)ซึ่งออกตามความในพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 จำเลยจึงมีคำสั่งไม่อนุญาตให้โจทก์ปลูกสร้างอาคาร และแจ้งให้โจทก์ทราบ อันเป็นการกระทำโดยชอบด้วยกฎหมายและระเบียบแบบแผนของทางราชการ ขอให้ศาลยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ปัญหาที่จะต้องวินิจฉัยมีว่า คำสั่งของจำเลยที่ไม่อนุญาตให้โจทก์ทำการปลูกสร้างอาคาร และคำวินิจฉัยของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ ที่มีมติไม่อนุญาตนั้น ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เมื่อตามข้อเท็จจริงปรากฏว่าภายหลังจากที่โจทก์ยื่นคำขออนุญาตปลูกสร้างอาคารพาณิชย์ 2 ชั้นต่อจำเลยแล้ว ได้มีประกาศกระทรวงมหาดไทยลงวันที่ 10 มิถุนายน 2528 กำหนดบริเวณห้ามทำการก่อสร้างอาคารในบริเวณบางส่วนของตำบลป่าตอง อำเภอกระทู้จังหวัดภูเก็ต ซึ่งรวมถึงบริเวณที่โจทก์ขออนุญาตปลูกสร้างอาคารรายนี้ด้วย โดยประกาศดังกล่าวมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 15มิถุนายน 2528 ดังปรากฏตามเอกสารหมาย ล.3 ต่อจากนั้นจำเลยจึงได้มีคำสั่งไม่อนุญาต ดังนี้เมื่ออาคารที่โจทก์ขออนุญาตก่อสร้างเป็นอาคารพาณิชย์ 2 ชั้นสูงเกิน 5 เมตร ซึ่งต้องห้ามมิให้ก่อสร้างตามประกาศกระทรวงมหาดไทยดังกล่าว จึงเป็นกรณีที่ไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ก่อสร้างได้ ถือว่าจำเลยปฏิบัติหน้าที่ราชการตามอำนาจหน้าที่โดยชอบด้วยกฎหมาย ฉะนั้นคำวินิจฉัยของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ที่ไม่อนุญาตยืนตามคำสั่งของจำเลย จึงเป็นคำวินิจฉัยที่ชอบด้วยกฎหมายเช่นกัน ไม่มีเหตุที่จะแก้ไขเปลี่ยนแปลงหรือเพิกถอน แม้คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์จะมีคำวินิจฉัยอุทธรณ์ไม่เสร็จภายใน 60 วัน แต่ก็มิใช่เหตุที่จะทำให้คำสั่งนั้นไม่ชอบด้วยกฎหมาย…”
พิพากษายืน.