คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3668/2531

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

แม้ชายคา หน้าต่างหากมีการเปิด และทางระบายน้ำของห้องแถวจำเลยซึ่งปลูกอยู่ในที่ดินของ ว. จะได้รุกล้ำเข้าไปในที่ดินของโจทก์ก็ตาม เมื่อจำเลยได้กระทำด้วยความสุจริตเพื่อการใช้ชายคา หน้าต่างกับทางระบายน้ำดังกล่าวมาก่อนที่โจทก์จะซื้อที่ดินของโจทก์ จึงถือไม่ได้ว่าจำเลยกระทำละเมิดต่อโจทก์ ทั้งจำเลยได้ใช้สิทธินั้นด้วยอำนาจปรปักษ์มาเป็นเวลาเกิน 10 ปี จึงได้สิทธิภาระจำยอมเกี่ยวกับชายคา หน้าต่างกับทางระบายน้ำนั้นในที่ดินโจทก์

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าโจทก์เป็นเจ้าของที่ดิน จำเลยเป็นเจ้าของห้องแถวไม้ซึ่งอยู่ติดกับที่ดินของโจทก์ ชายคา หน้าต่าง และกันสาดบ้านของจำเลยได้รุกล้ำเข้ามาในที่ดินของโจทก์ ทั้งจำเลยนำของต่าง ๆ มาวางเกะกะในที่ดินของโจทก์และปล่อยน้ำโสโครกไหลเข้ามาในที่ดินของโจทก์ ขอให้จำเลยรื้อถอนชายคา ประตู กันสาดหน้าต่าง หน้าต่าง ทางระบายน้ำโสโครก และสิ่งของออกจากที่ดินโจทก์หากไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษาให้โจทก์รื้อถอนเองโดยจำเลยเสียค่าใช้จ่าย
จำเลยให้การว่า โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง ชายคา หน้าต่าง กันสาดจะรุกล้ำที่ดินโจทก์หรือไม่ ไม่ทราบ แต่จำเลยครอบครองมากว่า ๑๐ ปี ไม่มีผู้ใดโต้แย้งจึงมิได้ละเมิดต่อโจทก์ ส่วนทางระบายน้ำเจ้าของที่ดินเดิมได้ทำไว้ให้ไหลสู่ลำกระโดงสาธารณะมากว่า ๓๐ ปี ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยรื้อชายคาห้องแถวให้พ้นที่ดินโจทก์และให้จำเลยรื้อถอนกองไม้ที่จำเลยนำมาวางไว้ในที่ดินของโจทก์ออกไป ห้ามมิให้จำเลยเปิดหน้าต่างห้องแถวของจำเลยให้รุกล้ำแนวเขตที่ดินโจทก์ ห้ามมิให้จำเลยปล่อยน้ำโสโครกจากห้องแถวของจำเลยเข้าไปในที่ดินของโจทก์ ถ้าจำเลยไม่ปฏิบัติตามให้โจทก์เป็นผู้ดำเนินการเองโดยจำเลยเสียค่าใช้จ่าย
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงเบื้องต้นฟังได้ตามที่คู่ความนำสืบรับกันว่า ห้องแถว ๒ ชั้น ของจำเลยเลขที่ ๓๐๑ ซอยสวนพลู ๑ แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตยานนาวา กรุงเทพมหานคร ปลูกอยู่ในที่ดินโฉนดเลขที่ ๑๑๑๙๗ ของนางวรรณทิพย์ สะสม หรือนางสาววรรณทิพย์ ปิยะจิตติ น้องสาวของจำเลย ปรากฏตามเอกสารหมาย ล.๒ โดยซื้อมาจากนายประโนตย์ วิเศษแพทย์ ตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๐๘ จำเลยซื้อห้องแถวข้างต้ดนจากนายชิก แซ่เฮ้ง และทำสัญญาเช่าที่ดินที่ปลูกห้องแถวกับนางประนอมนิตย์ ศรีแสง พี่สะใภ้ของโจทก์ซึ่งเป็นตัวแทนเจ้าของที่ดิน ส่วนโจทก์เพิ่งซื้อที่ดินโฉนดเลขที่ ๑๕๓๖๙ ที่ติดห้องแถวจำเลยเมื่อ พ.ศ.๒๕๒๐ ปรากฏตามเอกสารหมาย จ.๑ ซึ่งขณะนั้นห้องแถวจำเลยเป็นห้อง ๒ ชั้นแล้ว มีประเด็นที่จะวินิจฉัยชั้นฎีกาเพียงว่า ชายคาและหน้าต่างห้องแถวจำเลยรุกล้ำเข้าไปในที่ดินโจทก์และจำเลยปล่อยน้ำโสโครกจากบ้านจำเลยให้ไหลเข้าไปในที่ดินโจทก์ เป็นการละเมิดต่อโจทก์หรือไม่ โจทก์มีตัวโจทก์กับนางประนอมนิตย์ ศรีแสง ซึ่งเป็นพี่สะใภ้โจทก์เบิกความว่า แต่เดิมห้องแถวจำเลยและที่ดินเป็นกรรมสิทธิ์ของนายประโนตย์ น้องชายนางประนอมนิตย์ ครั้นเมื่อประมาณ ๒๐ปีมานี้นายประโนตย์ได้ขายห้องแถวพร้อมที่ดินแก่ผู้เช่าห้อง ซึ่งรวมทั้งจำเลยนี้ด้วยส่วนโจทก์เพิ่มซื้อที่ดินข้างต้นมาจากกนางสาวนิยมพร วิเศษแพทย์ ในปี พ.ศ.๒๕๒๐ นายสุกิจ เวสสเมฆินทร์ พยานโจทก์เบิกความว่า เป็นช่างรังวัดกรมที่ดินที่ไปรังวัดสอบเขตที่ดินจากแผนที่หลังโฉนดของคู่ความ ปรากฏว่า แนวเขตที่ดินของโจทก์กับที่ดินที่ปลูกสร้างห้องแถวของจำเลยด้านที่พิพาทกัน ได้มีชายคาของห้องแถวจำเลยด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือรุกล้ำเข้าไปในที่ดินโจทก์ประมาณ ๔๗ เซนติเมตรและด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือชายคารุกล้ำเข้าไปบริเวณ ๓๔.๔๐ เซนติเมคร แต่หน้าต่างห้องแถวจะรุกล้ำต่อเมื่อเปิดหน้าต่างเท่านั้น เห็นว่า นายสุกิจพยานโจทก์เป็นเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบรังวัดที่ดินตามความประสงค์ของคู่ความนับว่าเป็นคนกลางไม่มีส่วนได้เสียกับฝ่ายใด จากผลการรังวัดของนายสุกิจประกอบคำเบิกความนางประนอมนิตย์ พยานโจทก์ที่ยืนยันว่าสภาพห้องแถวของจำเลยขณะนี้มีอยู่ก่อนที่โจทก์จะซื้อที่ดิน เชื่อว่าชายคาของห้องแถวจำเลยและหน้าต่างหากมีการเปิดได้รุกล้ำเข้าไปในที่ดินของโจทก์จริง โดยเฉพาะคำเบิกความนางวรรณทิพย์ สะสม พยานจำเลยและเป็นน้องสาวจำเลยได้ซื้อที่ดินมาตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๐๘ ด้วยแล้ว จำเลยคงปรับปรุงต่อเติมห้องแถวที่ใช้ชั้นล่างเป็นที่ขายของ ใช้ชั้นบนสำหรับหลับนอนตั้งแต่นั้น ส่วนทางระบายน้ำโสโครกที่ไหลจากห้องจำเลยเข้าไปในที่ดินของโจทก์ นางประนอมนิตย์ พยานโจทก์ก็รับว่า ทางระบายน้ำได้มีมานานแล้วเช่นเดียวกัน และจำเลยได้กระทำด้วยความสุจริต เพื่อการใช้ชายคาหน้าต่างกับทางระบายน้ำมาก่อนที่โจทก์จะซื้อที่ดินดังกล่าว จึงถือไม่ได้ว่าจำเลยกระทำละเมิดต่อโจทก์ ทั้งจำเลยได้ใช้สิทธินั้นด้วยอำนาจปรปักษ์มาเป็นเวลาเกินกว่า ๑๐ ปี ชายคาและหน้าต่างห้องแถวกับทางระบายน้ำจึงได้สิทธิภาระจำยอมในที่ดินโจทก์ คำพิพากษาของศาลล่างทั้งสองบางส่วนไม่ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกา ฎีกาของจำเลยบางส่วนฟังขึ้น
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องโจทก์เฉพาะคำขอที่ให้จำเลยรื้อถอนชายคาและหน้าต่างห้องแถวเลขที่ ๓๐๑ ของจำเลย กับทางระบายน้ำโสโครกนั้นเสีย นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับทั้งสามศาล

Share