แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เมื่อสัญญาซื้อขายเรือนเป็นโมฆะเพราะมิได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ เงินซึ่งผู้ขายรับไว้ตามสัญญานั้นก็เป็นลาภมิควรได้ ซึ่งผู้ซื้อจะต้องฟ้องเรียกคืนภายใน 1 ปี นับแต่เวลาที่ผู้ซื้อรู้ว่าตนมีสิทธิเรียกคืน หรือภายในสิบปีนับแต่เวลาที่สิทธินั้นได้มีขึ้น
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องเรียกคืนเงินที่จำเลยได้รับไปตามสัญญาซื้อขายเรือนซึ่งเป็นโมฆะ เพราะมิได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่
จำเลยสู้ว่าไม่เคยทำสัญญาขายหรือจะขายเรือนให้โจทก์ ไม่เคยรับเงิน ฟ้องโจทก์ขาดอายุความและเคลือบคลุม
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่าคดีโจทก์ไม่ขาดอายุความ ให้จำเลยคืนเงินแก่โจทก์ฐานเป็นลาภมิควรได้
จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์ เพราะคดีโจทก์ขาดอายุความ
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า เงินที่จำเลยได้รับจากโจทก์ตามสัญญาซื้อขายเรือนอันเป็นโมฆะเพราะมิได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่นั้นเป็นลาภมิควรได้ ซึ่งโจทก์จะต้องฟ้องเรียกคืนภายใน ๑ ปี นับแต่วันที่โจทก์ได้รู้ถึงโมฆะกรรมนั้น หรืออย่างน้อยก็นับแต่วันที่โจทก์ฟ้องจำเลยในคดีก่อนเพื่อบังคับตามสัญญาอันเป็นโมฆะนั้นฎีกาโจทก์ที่ว่าโจทก์ได้รู้ถึงสัญญาซื้อขายเรือนระหว่างโจทก์กับจำเลยเป็นโมฆะในวันที่ศาลพิพากษาคดีที่โจทก์ฟ้องจำเลยเพื่อบังคับตามสัญญาซื้อขายนั้น ฟังไม่ขึ้น เมื่อโจทก์ฟ้องคดีหลังจากที่เวลาล่วงเลยไปกว่าปีหนึ่ง คดีของโจทก์จึงขาดอายุความฟ้องร้องตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา ๔๑๙
พิพากษายืน ยกฎีกาโจทก์