แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา289วรรคหนึ่งให้สิทธิแก่ผู้รับจำนองที่จะเลือกว่าให้นำทรัพย์สินจำนองออกขายโดยปลอดจำนองแล้วนำเงินที่ได้จากการขายมาชำระหนี้ตนก่อนเจ้าหนี้อื่นก็ได้แต่อย่างไรก็ตามหากผู้รับจำนองไม่ประสงค์จะใช้สิทธิบังคับจำนองก็อาจให้ขายทรัพย์นั้นโดยติดจำนองก็ได้เพราะการบังคับคดีแก่ทรัพย์สินไม่กระทบกระทั่งถึงสิทธิจำนองซึ่งผู้รับจำนองอาจร้องขอให้บังคับเหนือทรัพย์สินนั้นได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา287และในกรณีจำนองอสังหาริมทรัพย์วรรคสองของมาตรา289ได้บัญญัติให้ผู้รับจำนองยื่นคำร้องเสียก่อนเอาทรัพย์สินนั้นออกขายทอดตลาดทั้งนี้เพื่อเจ้าพนักงานบังคับคดีจะได้ดำเนินการไปได้โดยถูกต้องตามเจตนาของผู้รับจำนองการที่ผู้ร้องซึ่งเป็นผู้รับจำนองไม่ได้ยื่นคำร้องขอต่อศาลก่อนเอาทรัพย์สินจำนองออกขายทอดตลาดจึงหาเป็นเหตุให้ผู้ร้องหมดสิทธิในฐานะผู้รับจำนองไปไม่ เมื่อเอาทรัพย์สินจำนองออกขายทอดตลาดโดยปลอดจำนองแล้วก็จะต้องชำระหนี้จำนองให้แก่ผู้ร้องในฐานะผู้รับจำนองก่อนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา732
ย่อยาว
คดี นี้ สืบเนื่อง มาจาก ศาลชั้นต้น พิพากษา ให้ จำเลย ทั้ง สอง ชำระหนี้โจทก์ ตาม สัญญา ประนีประนอม ยอมความ แต่ จำเลย ทั้ง สอง มิได้ ชำระหนี้ตาม คำพิพากษา ดังกล่าว แก่ โจทก์ โจทก์ จึง นำ เจ้าพนักงาน บังคับคดียึด ที่ดิน โฉนด เลขที่ 35778 พร้อม สิ่งปลูกสร้าง ของ จำเลย ที่ 2 ซึ่งจำเลย ประกันหนี้ ตาม สัญญา เบิกเงินเกินบัญชี ไว้ แก่ ผู้ร้อง เจ้าพนักงานบังคับคดี ได้ ขายทอดตลาด โดย ปลอด จำนอง เมื่อ วันที่25 กันยายน 2532 โจทก์ เป็น ผู้ประมูล ได้ ใน ราคา 460,000 บาทผู้ร้อง ใน ฐานะ เจ้าหนี้ จำนอง ได้ ยื่น คำร้องขอ รับชำระหนี้ จำนอง ก่อนเจ้าหนี้ อื่น เมื่อ วันที่ 25 มกราคม 2533 ศาลชั้นต้น มี คำสั่ง ว่าผู้ร้อง ยื่น คำร้อง เมื่อ พ้น ระยะเวลา ตาม ที่ กฎหมาย กำหนด ไว้ ไม่มี สิทธิได้รับ ชำระหนี้ ก่อน เจ้าหนี้ ราย อื่น ให้ยก คำร้อง ผู้ร้อง อุทธรณ์ศาลอุทธรณ์ ภาค 2 พิพากษากลับ ให้ ผู้ร้อง ได้รับ ชำระหนี้ จำนอง ก่อนเจ้าหนี้ อื่น ตาม คำร้อง โจทก์ และ ผู้ร้องขอเฉลี่ยหนี้ ฎีกา ศาลฎีกาวินิจฉัย ว่า คำร้อง ตาม ที่ ผู้ร้อง ยื่น ต่อ ศาล มา นี้ ผู้ร้อง ยื่น ขอ ต่อ ศาลเพื่อ ให้ เอา เงิน ที่ ได้ มาจาก การ ขายทอดตลาด ทรัพย์ที่จำนอง ของจำเลย ที่ 2 มา ชำระหนี้ ของ ผู้ร้อง ก่อน เจ้าหนี้ อื่น ๆ อันเป็น การ ใช้สิทธิ ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 289 วรรคสองซึ่ง ตาม บท กฎหมาย ดังกล่าว ได้ กำหนด ระยะเวลา ให้ ผู้ร้อง ยื่น คำร้องขอก่อน เอา ทรัพย์ นั้น ออก ขายทอดตลาด ดังนั้น เมื่อ ปรากฏว่า ผู้ร้อง มา ยื่นคำร้องขอ รับชำระหนี้ จำนอง ก่อน เจ้าหนี้ ก่อน โดย ยื่น ใน วันที่25 มกราคม 2533 ซึ่ง เป็น เวลา ภายหลัง ที่ ได้ มี การ ขายทอดตลาด ทรัพย์ที่ จำนอง แล้ว จึง เป็น การ ยื่น เมื่อ พ้น กำหนด เวลา ตาม กฎหมายผู้ร้อง ย่อม ไม่มี สิทธิ ขอให้ เอา เงิน ที่ ได้ มาจาก การ ขายทอดตลาดทรัพย์ที่จำนอง ของ จำเลย ที่ 2 มา ชำระหนี้ จำนอง ของ ผู้ร้อง ก่อนเจ้าหนี้ ราย อื่น พิพากษากลับ ให้ยก คำร้องของผู้ร้อง
โจทก์ และ ผู้ร้องขอเฉลี่ยหนี้ ต่าง ยื่น คำร้อง ว่า โจทก์ และ ผู้ร้องขอเฉลี่ยหนี้ ได้ ขอรับ เงิน ที่ ได้ จาก การ ขายทอดตลาด จาก เจ้าพนักงานบังคับคดี แต่ เจ้าพนักงาน บังคับคดี อ้างว่า ต้อง สอบถาม ผู้ร้อง ก่อนการ ที่ ผู้ร้อง มิได้ ขอรับ ชำระหนี้ จำนอง ก่อน นำ ที่ดิน จำนอง ออกขายทอดตลาด สิทธิ ที่ ผู้ร้อง ที่ จะ ได้รับ เงิน จาก การ ขายทอดตลาดได้ สิ้นสุด ลง แล้ว การกระทำ ของ เจ้าพนักงาน บังคับคดีเป็น การ ประวิง การ จ่ายเงิน แก่ โจทก์ และ ผู้ร้องขอเฉลี่ยหนี้ ขอให้มี คำสั่ง ให้ เจ้าพนักงาน บังคับคดี จ่ายเงิน ที่ ได้ จาก การ ขายทอดตลาดแก่ โจทก์ และ ผู้ร้องขอเฉลี่ยหนี้ ตาม ส่วน
ผู้ร้อง ยื่น คำร้อง ว่า เจ้าพนักงาน บังคับคดี ขายทอดตลาดที่ดิน โดย ปลอด การ จำนอง ก่อน ที่ ศาล มี คำสั่ง ให้ ผู้ร้อง ได้รับ ชำระหนี้ใน ฐานะ ผู้รับจำนอง เป็น การ ไม่ชอบ และ การ ที่ ผู้ร้อง แถลง ขอให้เจ้าพนักงาน บังคับคดี ขาย ที่ดิน โดย ปลอด การ จำนอง มิใช่ เป็น การปลด จำนอง สัญญาจำนอง ไม่ระงับ ผู้ร้อง ยัง มี ฐานะ เป็น ผู้รับจำนองมีสิทธิ ได้รับ เงิน ที่ ได้ จาก การ ขายทอดตลาด ที่ดิน จำนอง ก่อน โจทก์และ ผู้ร้องขอเฉลี่ยหนี้ ขอให้ กัน เงิน ที่ ได้ จาก การ ขายทอดตลาด ที่ดินจำนอง ชำระหนี้ จำนอง ส่วน ของ ผู้ร้อง ก่อน
ศาลชั้นต้น มี คำสั่ง ให้ยก คำร้อง
โจทก์ และ ผู้ร้องขอเฉลี่ยหนี้ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ ภาค 2 พิพากษายืน
โจทก์ และ ผู้ร้องขอเฉลี่ยหนี้ ฎีกา
ศาลฎีกา วินิจฉัย ว่า คดี มี ปัญหา ว่า ผู้ร้อง ใน ฐานะผู้รับจำนอง หมด สิทธิ ใน เงิน ที่ ได้ จาก การ ขาย ทรัพย์สิน จำนอง หรือไม่ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 289 วรรคหนึ่ง และ วรรคสองบัญญัติ ว่า “ถ้า บุคคล ใด ชอบ ที่ จะ บังคับ การ ชำระหนี้ เอา จาก ทรัพย์สินของ ลูกหนี้ ตาม คำพิพากษา ที่ เจ้าพนักงาน บังคับคดี ได้ ยึด ไว้ หรือชอบ ที่ จะ ได้ เงิน ที่ ขาย หรือ จำหน่าย ทรัพย์สิน เหล่านั้น ได้ โดย อาศัยอำนาจ แห่ง การ จำนอง ที่ อาจ บังคับ ได้ ก็ ดี หรือ อาศัย อำนาจ แห่งบุริมสิทธิ์ ก็ ดี บุคคล นั้น อาจ ยื่น คำร้องขอ ต่อ ศาล ที่ ออกหมาย บังคับคดีให้ เอา เงิน ที่ ได้ มา นั้น ชำระหนี้ ตน ก่อน เจ้าหนี้ อื่น ๆ ตาม บทบัญญัติแห่ง ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ใน กรณี ที่ อาจ บังคับ เอา ทรัพย์สินซึ่ง จำนอง หลุด ผู้รับจำนอง จะ มี คำขอ ดังกล่าว ข้างต้น ให้ เอา ทรัพย์สินซึ่ง จำนอง นั้น หลุด ก็ ได้
ใน กรณี จำนอง อสังหาริมทรัพย์ หรือ บุริมสิทธิ เหนืออสังหาริมทรัพย์ อัน ได้ ไป จดทะเบียน ไว้ นั้น ให้ ยื่น คำร้องขอ ก่อนเอา ทรัพย์สิน นั้น ออก ขายทอดตลาด ส่วน ใน กรณี อื่น ๆ ให้ ยื่น คำร้องขอ เสีย ก่อน ส่ง คำบอกกล่าว ตาม ที่ บัญญัติ ไว้ ใน มาตรา 319”
บทบัญญัติ ดังกล่าว ใน วรรคหนึ่ง ให้สิทธิ แก่ ผู้รับจำนอง ที่ จะเลือก ว่า ให้ นำ ทรัพย์สิน จำนอง ออก ขาย โดย ปลอด จำนอง แล้ว นำ เงินที่ ได้ จาก การ ขาย มา ชำระหนี้ ตน ก่อน เจ้าหนี้ อื่น ก็ ได้ แต่ อย่างไร ก็ ตามหาก ผู้รับจำนอง ไม่ประสงค์ จะ ใช้ สิทธิ บังคับจำนอง ก็ อาจ ให้ ขาย ทรัพย์นั้น โดย ติด จำนอง ก็ ได้ เพราะ การ บังคับคดี แก่ ทรัพย์สิน ไม่ กระทบ กระทั่งถึง สิทธิจำนอง ซึ่ง ผู้รับจำนอง อาจ ร้องขอ ให้ บังคับ เหนือ ทรัพย์สิน นั้นได้ ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 287 และ ใน กรณีจำนอง อสังหาริมทรัพย์ วรรคสอง ของ มาตรา 289 ได้ บัญญัติ ให้ ผู้รับจำนองยื่น คำร้อง เสีย ก่อน เอา ทรัพย์สิน นั้น ออก ขายทอดตลาด ทั้งนี้ เพื่อเจ้าพนักงาน บังคับคดี จะ ได้ ดำเนินการ ไป ได้ โดย ถูกต้อง ตาม เจตนา ของผู้รับจำนอง การ ที่ ผู้ร้อง ซึ่ง เป็น ผู้รับจำนอง ไม่ได้ ยื่น คำร้องขอ ต่อศาล ก่อน เอา ทรัพย์สิน จำนอง ออก ขายทอดตลาด จึง หา เป็นเหตุ ให้ ผู้ร้องหมด สิทธิ ใน ฐานะ ผู้รับจำนอง ไป ไม่ นอกจาก นี้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 732 ยัง ได้ บัญญัติ ไว้ ด้วย ว่าทรัพย์สิน ซึ่ง จำนอง ขายทอดตลาด ได้ เงิน เป็น จำนวน สุทธิ เท่าใดให้ จัด ใช้ แก่ ผู้รับจำนอง ก่อน ด้วย ฉะนั้น เมื่อ เอา ทรัพย์สิน จำนอง ออกขายทอดตลาด โดย ปลอด จำนอง แล้ว ก็ จำต้อง ชำระหนี้ จำนอง ให้ แก่ผู้ร้อง ใน ฐานะ ผู้รับจำนอง ก่อน ศาลอุทธรณ์ ภาค 2 พิพากษายืน ตามคำสั่งศาล ชั้นต้น มา ชอบแล้ว
พิพากษายืน