คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3650/2547

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ผู้เสียหายทั้งสองซึ่งเป็นวัยรุ่นบุกรุกเข้ามาในบริเวณบ้านที่จำเลยที่ 2 และครอบครัวอยู่อาศัยและปีนหลังคาห้องน้ำแอบดูการอาบน้ำของน้องสาวจำเลยที่ 2 ซึ่งอยู่ในวัยรุ่นเช่นกันและยังอยู่ในความอุปการะเลี้ยงดูให้การศึกษาของจำเลยที่ 2 ย่อมเป็นการข่มเหงจำเลยที่ 2 อย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม จนก่อให้เกิดโทสะขึ้นถึงขั้นกระทำความผิดลงได้ จำเลยที่ 2 ใช้มีดพร้าฟันผู้เสียหายทั้งสองได้รับอันตรายสาหัส แม้การกระทำของจำเลยที่ 2 จะกระทำต่อผู้เสียหายทั้งสองในลักษณะที่รุนแรงเกินไป การกระทำของจำเลยที่ 2 ก็ยังเป็นการกระทำผิดโดยบันดาลโทสะตาม ป.อ. มาตรา 72 ซึ่งศาลมีอำนาจลงโทษจำเลยที่ 2 น้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้เพียงใดก็ได้ ทั้งนี้โดยคำนึงถึงความเหมาะสมแห่งพฤติการณ์และความร้ายแรงในการกระทำผิด

ย่อยาว

คดีทั้งสองสำนวนนี้ ศาลชั้นต้นสั่งให้รวมเป็นคดีเดียวกัน
โจทก์ทั้งสองฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตาม ป.อ. มาตรา 288 , 80 , 83 , 84 , 90 , 91
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องโจทก์ที่ 1 แล้ว เห็นว่า คดีมีมูลสำหรับจำเลยที่ 1 ให้ประทับฟ้อง
ระหว่างพิจารณาของศาลชั้นต้น นายสุทิน บิดาเด็กชายสุธน ผู้เสียหายที่ 1 ยื่นคำร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์กับโจทก์ที่ 2 ศาลชั้นต้นอนุญาต
จำเลยที่ 1 ไม่ได้ให้การ ถือว่าให้การปฏิเสธ จำเลยที่ 2 ให้การว่าได้ทำร้ายร่างกายผู้เสียหายทั้งสอง แต่ไม่มีเจตนาฆ่า
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยที่ 2 มีความผิด… และยกฟ้องสำหรับจำเลยที่ 1
โจทก์ที่ 1 และจำเลยที่ 2 อุทธรณ์
ระหว่างพิจารณาของศาลอุทธรณ์ภาค 8 นางจำเนียร ภริยานายสุทินและเป็นมารดาเด็กชายสุธน ผู้เสียหายที่ 1 ยื่นคำร้องว่า นายสุทินถึงแก่ความตายแล้ว ขอเข้าเป็นผู้ดำเนินคดีแทน ศาลอุทธรณ์ภาค 8 อนุญาต
ศาลอุทธรณ์ภาค 8 พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยที่ 1 มีความผิดตาม ป.อ. มาตรา 288 ประกอบมาตรา 80 และ 86 จำเลยที่ 2 มีความผิดตาม ป.อ. มาตรา 288 ประกอบมาตรา 80 จำคุกจำเลยที่ 1 มีกำหนด 6 ปี 8 เดือน ในส่วนของจำเลยที่ 2 เป็นความผิด 2 กรรมต่างกัน ให้เรียงกระทงลงโทษ จำคุกกระทงละ 10 ปี รวมจำคุก 20 ปี คำรับของจำเลยที่ 2 เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ทั้งจำเลยที่ 2 ได้พยายามบรรเทาผลร้ายแห่งความผิดนั้น โดยขอชดใช้ค่าเสียหายแก่ผู้เสียหายทั้งสองแล้ว มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุกจำเลยที่ 2 มีกำหนด 10 ปี
โจทก์ที่ 1 และจำเลยที่ 1 ที่ 2 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังยุติในเบื้องต้นว่า ผู้เสียหายทั้งสองแอบดูนางสาวชะบา น้องของจำเลยที่ 2 อาบน้ำ นางสาวชะบาร้องให้คนช่วย จำเลยที่ 2 ได้ใช้มีดพร้าฟันที่ขาของผู้เสียหายทั้งสอง โจทก์ที่ 1 และชาวบ้านได้ช่วยกันนำตัวผู้เสียหายทั้งสองส่งโรงพยาบาล ปรากฏว่าผู้เสียหายที่ 1 ได้รับบาดเจ็บเป็นบาดแผลที่น่องทั้งสองข้างยาว 10 เซนติเมตร กล้ามเนื้อและเส้นเลือดขาดลึกถึงกระดูก กระดูกขาทั้งสองข้างหัก แพทย์รักษาโดยตัดขาข้างซ้าย ส่วนผู้เสียหายที่ 2 ได้รับบาดเจ็บเป็นบาดแผลที่น่องข้างขวายาว 25 เซนติเมตร ลึกถึงกระดูก เส้นเลือดแดงขาด กระดูกหัก
ปัญหาว่า การกระทำของจำเลยที่ 2 เป็นการกระทำผิดเพราะบันดาลโทสะโดยถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรมหรือไม่ ได้ความจากคำเบิกความของพยาน ที่ถูกผู้เสียหายทั้งสองแอบดูการอาบน้ำว่า จำเลยที่ 2 เป็นผู้ส่งเสียเลี้ยงดูและให้การศึกษาแก่พยาน ขณะเกิดเหตุผู้เสียหายทั้งสองบุกรุกเข้ามาแอบดูพยานขณะกำลังอาบน้ำ โดยมีการปีนหลังคาห้องน้ำขึ้นไปแอบดูด้วย เมื่อพยานร้องหาจำเลยที่ 1 ผู้เป็นมารดา จำเลยที่ 2 ก็ได้ออกมาฟันผู้เสียหายทั้งสอง ขณะเกิดเหตุนั้นผู้เสียหายทั้งสองอยู่ในวัยรุ่นแล้ว โดยผู้เสียหายที่ 1 และที่ 2 อายุ 14 ปี และ 15 ปี ตามลำดับ พฤติการณ์ที่ผู้เสียหายซึ่งเป็นวัยรุ่นถึงสองคนบุกรุกเข้ามาในบริเวณบ้านที่จำเลยที่ 2 และครอบครัวอยู่อาศัยและแอบดูการอาบน้ำน้องสาวจำเลยที่ 2 ซึ่งอยู่ในวัยรุ่นเช่นกัน และยังอยู่ในความอุปการะเลี้ยงดูให้การศึกษาของจำเลยที่ 2 ในลักษณะเช่นนั้น ย่อมเป็นการข่มเหงจำเลยที่ 2 อย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม จนก่อให้เกิดโทสะขึ้นถึงขั้นกระทำความผิดลงได้ แม้การกระทำของจำเลยที่ 2 จะกระทำต่อผู้เสียหายทั้งสองในลักษณะที่รุนแรงเกินไปก็ตาม การกระทำของจำเลยที่ 2 จึงเป็นการกระทำผิดโดยบันดาลโทสะตาม ป.อ. มาตรา 72 ซึ่งศาลมีอำนาจลงโทษจำเลยที่ 2 น้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้เพียงใดก็ได้ ทั้งนี้โดยคำนึงถึงความเหมาะสมแห่งพฤติการณ์และความร้ายแรงในการกระทำผิด…
พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยที่ 2 มีความผิดตาม ป.อ. มาตรา 297 (8) ประกอบมาตรา 72 เป็นการกระทำหลายกรรมต่างกัน ให้เรียงกระทงลงโทษตาม ป.อ. มาตรา 91 จำคุกกระทงละ 5 ปี รวมจำคุก 10 ปี ลดโทษให้ตาม ป.อ. มาตรา 78 หนึ่งในสาม คงจำคุก 6 ปี 8 เดือน ให้ยกฟ้องจำเลยที่ 1.

Share