คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3646/2532

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ในวันนัดสืบพยานจำเลยนัดแรกซึ่งศาลให้จำเลยนำพยานมาสืบให้เสร็จจำเลยไม่มีพยานมาศาลเลย การที่ทนายจำเลยอ้างว่าจำเลยป่วยก็ไม่มีใบรับรองแพทย์มาแสดงให้น่าเชื่อ ที่ทนายจำเลยจะนำสืบพยานจำเลยปากหนึ่งในข้อที่ว่าดอกเบี้ยมีการลดลงตามประกาศธนาคารแห่งประเทศไทยก็ไม่จำเป็นแก่คดี เพราะโจทก์ได้นำสืบไว้แล้วทั้งทนายจำเลยน่าจะออกหมายเรียกพยานปากนี้มาเบิกความ แต่ก็มิได้ดำเนินการพยานจำเลยอีกคนหนึ่งก็ได้ความว่าเป็นเลขานุการของจำเลยเองซึ่งทนายจำเลยน่าจะนำมาเบิกความในวันนัดได้ และที่ทนายจำเลยขอให้ศาลชั้นต้นส่งลายมือชื่อของจำเลยไปให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจพิสูจน์นั้น ศาลชั้นต้นก็เห็นว่าไม่เป็นการจำเป็นจึงไม่อนุญาตตามพฤติการณ์ดังกล่าวเห็นได้ว่าจำเลยประวิงคดี คำสั่งศาลชั้นต้นที่ไม่อนุญาตให้เลื่อนสืบพยานจำเลยไปและให้ตัดพยานจำเลยโดยถือว่าจำเลยไม่มีพยานมาสืบจึงชอบด้วยรูปคดีแล้ว.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยทั้งสามร่วมกันชำระเงินตามเช็คจำนวน 413,479 บาท พร้อมดอกเบี้ย
จำเลยทั้งสามให้การว่า จำเลยที่ 1 ที่ 2 ไม่เคยลงลายมือชื่อและประทับตราในเช็คพิพาท จำเลยที่ 2 ไม่เคยลงลายมือชื่อสลักหลังเช็คพิพาท โจทก์คิดดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 20 ไม่ชอบด้วยกฎหมาย โจทก์ไม่เคยทวงถามจำเลยทั้งสามจึงไม่มีอำนาจฟ้อง
จำเลยที่ 1 และที่ 2 ถูกพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด ซึ่งโจทก์ได้ยื่นคำขอรับชำระหนี้แล้ว ศาลชั้นต้นสั่งจำหน่ายคดีสำหรับจำเลยที่ 1 และที่ 2 ออกจากสารบบความ
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 3 ร่วมชำระเงิน 350,000 บาทพร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์
จำเลยที่ 3 อุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นที่สั่งตัดพยานของจำเลยที่ 3 ขอให้ยกคำพิพากษาศาลชั้นต้นและมีคำสั่งให้ศาลชั้นต้นสืบพยานจำเลยที่ 3 ให้เสร็จ แล้วพิพากษาใหม่ตามรูปคดี
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ 3 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ศาลชั้นต้นกำหนดวันนัดสืบพยานจำเลยที่ 3วันที่ 25 พฤศจิกายน 2530 แม้จะเป็นวันนัดสืบพยานจำเลยนัดแรกก็ได้จดแจ้งไว้ในรายงานกระบวนพิจารณาโดยแจ้งชัดว่าให้จำเลยที่ 3นำพยานมาสืบให้เสร็จ ครั้นถึงวันนัดปรากฏว่าไม่มีพยานจำเลยที่ 3มาศาลเลย การที่ทนายจำเลยที่ 3 อ้างว่าได้รับแจ้งจากจำเลยที่ 3ว่าตัวจำเลยที่ 3 ป่วยเป็นโรคตับอักเสบจึงไม่ได้มาศาลนั้น ก็ไม่มีใบรับรองของแพทย์มาแสดงให้น่าเชื่อ เพราะโรคตับอักเสบนี้จำเลยที่ 3 เองย่อมทราบอยู่ก่อนแล้วและสามารถที่จะแจ้งการป่วยดังกล่าวให้ทนายจำเลยที่ 3 ทราบได้ก่อนแล้ว เพื่อที่ทนายจำเลยที่ 3 จะได้แถลงขอเลื่อนคดีโดยมีใบรับรองของแพทย์มาแสดงต่อศาลสำหรับนายชัยวัธน์ คชะสุต ซึ่งไม่มาศาลได้แจ้งต่อทนายจำเลยที่ 3ว่าหยุดพักร้อนนั้น ก็ได้ความว่าศาลชั้นต้นสอบถามทนายจำเลยที่ 3ว่า จะสืบพยานปากนี้ในข้อใดบ้าง ทนายจำเลยที่ 3 ก็ได้แถลงต่อศาลชั้นต้นว่าจะสืบพยานดังกล่าวในข้อที่ว่าดอกเบี้ยมีการลดลงตามประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งก็ไม่จำเป็นแก่คดี เพราะโจทก์ได้นำสืบประกาศธนาคารแห่งประเทศไทยไว้แล้ว ตามเอกสารหมาย จ.12ทั้งทนายจำเลยที่ 3 ทราบดีแล้วว่าศาลชั้นต้นจะทำการสืบพยานจำเลยที่ 3 ให้เสร็จในวันดังกล่าว ทนายจำเลยที่ 3 ก็น่าจะออกหมายเรียกพยานปากนี้ให้มาเบิกความเป็นพยาน แต่ก็มิได้ดำเนินการดังกล่าว ส่วนนายเชี่ยวชาญ วิชิตพันธ์ นั้นก็ได้ความว่าเป็นเลขานุการของจำเลยที่ 3 เอง ทนายจำเลยที่ 3 น่าจะนำพยานปากนี้มาเบิกความในวันนัดได้ และการที่ทนายจำเลยที่ 3 ขอให้ศาลชั้นต้นส่งลายมือชื่อของจำเลยที่ 3 ไปให้ผู้เชี่ยวชาญพิสูจน์นั้นศาลชั้นต้ก็เห็นว่าไม่เป็นการจำเป็นจึงไม่อนุญาต ตามพฤติการณ์ดังกล่าวเห็นได้ว่า จำเลยที่ 3 ประวิงคดี ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นไม่อนุญาตให้เลื่อนสืบพยานจำเลยที่ 3 ไปและให้ตัดพยานโดยถือว่าจำเลยที่ 3 ไม่มีพยานมาสืบชอบด้วยรูปคดีแล้ว ฎีกาของจำเลยที่ 3ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน.

Share