แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เมื่อโจทก์ฟ้องอ้างว่าได้เข้าหุ้นก่อสร้างอาคารร่วมกับผู้ร้องแล้ว หากโจทก์จะบังคับให้จำเลยไปจดทะเบียนการเช่าให้แก่ผู้เช่าในอัตราที่ต่ำกว่าค่าหุ้นที่ผู้ร้องลงทุนไป เมื่อศาลพิพากษาให้จำเลยจดทะเบียนการเช่าตามฟ้อง ผู้ร้องต้องขาดทุน ผลของคำพิพากษาย่อมกระทบต่อสิทธิหรือส่วนได้เสียของผู้ร้อง ผู้ร้องจึงได้ชื่อว่ามีส่วนได้เสียตามกฎหมายในผลแห่งคดี ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 57(2) ผู้ร้องชอบที่จะร้องสอดเข้ามาเป็นคู่ความในคดีได้.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ทั้งสองเป็นหุ้นส่วนร่วมกับนายซ่งฮี้แซ่เตียว ในการก่อสร้างอาคารพาณิชย์ในที่ดินของจำเลย โจทก์ทั้งสองต้องการเซ้งอาคารดังกล่าวให้แก่นายสมชัย ตรีพัฒนพันธ์ และแจ้งให้จำเลยไปจดทะเบียนการเช่าให้แก่นายสมชัย แต่จำเลยไม่ยอมไปขอให้บังคับจำเลยไปจดทะเบียนการเช่าดังกล่าว
จำเลยให้การว่า โจทก์ทั้งสองไม่ได้เป็นหุ้นส่วนร่วมกับนายซ่งฮี้ แซ่เตียว ลงทุนร่วมกันในการก่อสร้างอาคารพาณิชย์จำนวน 3 คูหาลงในที่ดินของนางบุญสัณฑ์ เล็กเลิศ โจทก์กับนางบุญสัณฑ์ตกลงเลิกสัญญาปลูกสร้างอาคารดังกล่าวกันแล้ว โจทก์ไม่มีสิทธินำอาคารดังกล่าวไปเซ้งให้แก่นายสมชัย ตรีพัฒน์พันธ์ ขอให้ยกฟ้อง
นายซ่งฮี้ แซ่เตียว ยื่นคำร้องว่า ผู้ร้อง โจทก์ที่ 1 และนางทองดี ภูจอมเดือน เป็นหุ้นส่วนร่วมกันก่อสร้างอาคารตามฟ้องโดยผู้ร้องลงทุนเป็นเงินคูหาละ 250,000 บาท รวม 3 คูหา เป็นเงิน750,000 บาท ส่วนโจทก์ที่ 1 กับนางทองดีลงทุนรวมกันเพียง 57,314บาทเท่านั้น แต่โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยไปจดทะเบียนการเช่าให้แก่นายสมชัย ตรีพัฒนพันธ์ ในอัตราค่าเซ้งคูหาละ 150,000 บาท ทำให้ผู้ร้องเสียหาย ผู้ร้องเป็นผู้มีส่วนได้เสียในคดีจึงขอเข้าเป็นจำเลยร่วม
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ผู้ร้องไม่ใช่ผู้มีส่วนได้เสียในผลแห่งคดีนี้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 57(2)ให้ยกคำร้อง
ผู้ร้องอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า เมื่อโจทก์ฟ้องอ้างว่าได้เข้าหุ้นก่อสร้างอาคารตามฟ้องร่วมกับผู้ร้องแล้วดังนี้ หากโจทก์ให้จำเลยจดทะเบียนการเช่าอาคารดังกล่าวให้แก่นายสมชัยในอัตราต่ำกว่าค่าหุ้นที่ผู้ร้องลงทุนไปจริงดังที่ผู้ร้องอ้าง เมื่อศาลพิพากษาให้จำเลยจดทะเบียนการเช่าตามฟ้อง ผู้ร้องต้องขาดทุน ผลของคำพิพากษาย่อมกระทบต่อสิทธิหรือส่วนได้เสียของผู้ร้อง ผู้ร้องจึงได้ชื่อว่ามีส่วนได้เสียตามกฎหมายในผลแห่งคดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 57(2) ชอบที่ผู้ร้องจะร้องสอดเข้ามาเป็นคู่ความในคดีได้ ฎีกาผู้ร้องฟังขึ้น
พิพากษากลับ อนุญาตให้ผู้ร้องสอดเข้าเป็นคู่ความในคดีได้.