แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ตั๋วเงินอัตราแลกเปลี่ยน
ย่อยาว
โจทย์ฟ้องว่านาย อี.แบรนดีได้สั่งให้จำเลยส่งเงินมารคเท่ากับเงินสยาม ๓๗๖๗๔ บาทให้แก่นายแบที่ประเทศเยอรมัน ครั้นรุ่งขึ้นจำเลยแจ้งว่าได้ส่งเงิน ๖๒๑๖๒ มารค ๑๐ เฟนนิงให้นายแบแล้ว นายแบรนดีจึงจ่ายเช็กเปนเงิน ๓๗๖๗๔ บาทให้จำเลย ภายหลังปรากฏว่านายแบไม่ได้รับเงินจำนวนนี้ จำเลยจึงยอมใช้เงิน ๖๒๑๖๒ มารค ๑๐ เฟนนิงให้โจทย์ผู้เข้ารับน่าที่ผู้จัดการมฤดกของนาง เอม.เอ.เด็ดโซลแทนนานแบรนดี แต่ปรากฎว่าเงินมารคจำนวนนี้ คิดตามอัตราแลกเปลี่ยนเวลานี้ประมาณเท่ากับ ๔ บาท โจทย์จึงขอให้จำเลยใช้เงิน ๓๗๖๗๐ บาทกับดอกเบี้ยตามอัตราแลกเปลี่ยนที่ต่างกัน
ศาลล่างฟังว่า นายแบรนดีได้สั่งให้จำเลยจ่ายเงินมารคให้นายแบที่ประเทศเยอรมันเปนเงินมารคตามราคาแลกเปลี่ยนเงินในคราวนั้นเท่ากับเงินสยาม ๓๗๖๗๔ บาท เปนเงิน ๖๒๑๖๒ มารค ๑๐ เฟนนิง แต่นายแบไม่ได้รับโดยไม่ใช่ความผิดของจำเลย ในที่สุดโจทย์จำเลยรับรองกันว่าเงินของโจทย์คงอยู่ในความยึดถือของจำเลย ๖๒๑๖๒ มารค ๑๐ เฟนนิง กับดอกเบี้ยร้อยละ ๒ เป็นเงิน ๙๑๗๖ มารค ๑๔ เฟนนิง รวมต้นเงินแลดอกเบี้ยเปนเงิน ๗๑๓๓๘ มารค ๒๔ จำเลยได้ส่งดร๊าฟเปนเงิน มารค ๒๔ เฟนนิงให้โจทย์ โจทย์ได้รับเงินแลให้ใบเสร็จแก่จำเลยเป็นหลักฐาน เปนอันแสดงว่าได้ชำระณี่กันเสร็จเด็ดขาดแล้ว โจทย์ไม่มีอำนาจที่จะมาฟ้องจำเลยอีก จึงตัดสินยกฟ้องโจทย์
โจทย์ฎีกา
ฎีกาตัดสินว่าคดีเป็นยุติเมื่อจำเลยรับเงิน ๗๑๓๓๘ มารค ๒๔ เฟนนิงนั้นแล้ว ไม่มีเหตุผลที่จะเปลี่ยนแปลงคำพิพากษาของศาลล่างทั้ง ๒ อีก จึงพิพากษายืน