แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยถูกฟ้องข้อหาจัดหางานโดยเรียกและรับค่าบริการโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนตามมาตรา 19 แห่งพระราชบัญญัติจัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ. 2511 สองคดี เมื่อระยะเวลาเกิดเหตุในอีกคดีหนึ่งเป็นส่วนหนึ่งของระยะเวลาเกิดเหตุในคดีนี้ ทั้งไม่มีการหยุดดำเนินกิจการในช่วงระยะเวลาเกิดเหตุตามฟ้องทั้งสองคดี แสดงว่าจำเลยมีเจตนาที่จะดำเนินการในการจัดหางานคราวเดียวกัน จึงเป็นความผิดกรรมเดียว แม้อีกคดีหนึ่งศาลชั้นต้นจะพิพากษาก่อนคดีนี้ให้ลงโทษจำเลยที่ 1 ก็ตาม เมื่อปรากฏว่าศาลฎีกาพิพากษายกฟ้องเนื่องจากเป็นฟ้องซ้อนกับคดีนี้แสียแล้ว การกระทำความผิดในข้อหานี้จึงถือไม่ได้ว่าได้มีคำพิพากษาเสร็จเด็ดขาดในความผิดที่ได้ฟ้อง โจทก์ฟ้องคดีนี้ได้ไม่เป็นฟ้องซ้ำ.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าเมื่อระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2524 ถึงวันที่ 31ธันวาคม 2525 เวลากลางวันและกลางคืนติดต่อกัน จำเลยทั้งสามร่วมกันประกอบธุรกิจจัดหางานให้แก่คนงานไปทำงานยังต่างประเทศโดยเรียกและรับเงินค่าบริการจากนายจรูญกับพวกโดยมิได้รับอนุญาตจัดหางานจากนายทะเบียนตามกฎหมายและตามวันเวลาดังกล่าวข้างต้นจำเลยทั้งสามได้ร่วมกันหลอกลวงประชาชนทั่วไปด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จ ตั้งสำนักงานเพื่อประกอบธุรกิจจัดหางานให้แก่ประชาชนที่ประสงค์จะไปทำงานในประเทศตะวันออกกลางโดยกำหนดให้ผู้ที่จะเดินทางไปมาสมัครงานกับจำเลยทั้งสามทั้งนี้ผู้สมัครจะต้องส่งมอบเงินค่าใช้จ่าย เงินค่าจัดหางานและค่าเดินทางให้แก่จำเลยทั้งสามไว้ล่วงหน้า ความจริงจำเลยทั้งสามรู้อยู่แล้วว่าตนเองไม่มีความสามารถและไม่ตั้งใจจะส่งประชาชนไปทำงานในประเทศตะวันออกกลางและโดยการหลอกลวงดังกล่าวทำให้นายจรูญ เดชากับพวกและผู้มีชื่ออื่นอีกเป็นจำนวนมากหลงเชื่อและมอบเงินให้จำเลยทั้งสามรวมเป็นเงิน 116,400 บาทขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 341, 343, 83, 91 พระราชบัญญัติจัดหางานและคุ้มครองคนหางานพ.ศ.2511 มาตรา 7, 27 ประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ 11 ลงวันที่ 21 พฤศจิกายน 2514 ข้อ 2 ให้จำเลยทั้งสามร่วมกันคืนเงิน 116,400 บาทแก่ผู้เสียหาย และนับโทษจำเลยทั้งสามต่อจากโจทก์ในคดีอาญาหมายเลขดำที่ 2398/2526 หมายเลขแดงที่ 15403/2526กับคดีอาญาหมายเลขดำที่ 3195/2526 หมายเลขแดงที่ 15834/2526 ของศาลชั้นต้นด้วยเพราะเป็นบุคคลคนเดียวกัน
จำเลยที่ 1 ให้การปฏิเสธแต่รับว่าเป็นบุคคลคนเดียวกับจำเลยในคดีที่โจทก์ขอให้นับโทษต่อจริง ส่วนจำเลยที่ 2 และที่ 3หลบหนีศาลชั้นต้นสั่งจำหน่ายคดี
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยที่ 1 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 341, 343, 83, 91 พระราชบัญญัติจัดหางานและคุ้มครองคนหางานพ.ศ.2511 มาตรา 7, 27 ประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ 11 ลงวันที่21 พฤศจิกายน 2514 ข้อ 2 ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 343 จำคุก5 ปีลงโทษตามพระราชบัญญัติจัดหางานและคุ้มครองคนหางานพ.ศ.2511มาตรา 27 จำคุก 1 เดือนรวมเป็นจำคุกจำเลยที่ 1 มีกำหนด 5 ปี 1เดือนนับโทษจำเลยที่ 1 ต่อจากโทษในคดีอาญาหมายเลขแดงที่15403/2526 และหมายเลขแดงที่ 15834/2526 ของศาลชั้นต้นกับให้จำเลยที่ 1 คืนเงิน 116,400 บาทแก่ผู้เสียหาย
จำเลยที่ 1 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ 1 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าส่วนความผิดฐานจัดหางานโดยเรียกและรับค่าบริการโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนนั้นตามความในมาตรา 19 แห่งพระราชบัญญัติจัดหางานและคุ้มครองคนหางานพ.ศ.2511ซึ่งใช้บังคับในขณะเกิดเหตุคดีนี้ เป็นที่เห็นได้ว่าเมื่อได้รับอนุญาตให้จัดหางานแล้วก็สามารถดำเนินการในการจัดหางานได้ตามเวลาที่กำหนด มิใช่ว่าเมื่อได้รับอนุญาตแล้วจะจัดหางานได้เพียงครั้งคราวเดียว จากหลักเกณฑ์ของกฎหมายดังกล่าวในปัญหาที่ว่าจะมีการกระทำผิดฐานจัดหางานโดยมิได้รับอนุญาตหลายกรรมต่างกันหรือไม่ จึงต้องพิจารณาว่าการจัดหางานนั้นได้กระทำต่อเนื่องเป็นคราวเดียวกันหรือไม่ มิใช่พิจารณาว่าเป็นการจัดหางานให้แต่ละคนหรือแต่ละช่วงระยะเวลาตามแต่จะกำหนดเป็นสำคัญข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในคดีนี้กับคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 15403/2526 ของศาลชั้นต้นได้ความว่าจำเลยทั้งสามได้ตั้งสำนักงานในชื่อของจำเลยที่ 3 ดำเนินการจัดหางานให้แก่ประชาชนทั่วไป เมื่อระยะเวลาเกิดเหตุคดีหมายเลขแดงที่ 15403/2526เป็นเพียงส่วนหนึ่งของระยะเวลาเกิดเหตุคดีนี้ ทั้งไม่ปรากฏว่ามีการหยุดดำเนินกิจการในช่วงระยะเวลาเกิดเหตุตามฟ้องทั้งสองคดีทำให้เห็นได้ว่าจำเลยที่ 1 กับพวกมีเจตนาที่จะดำเนินการในการจัดหางานคราวเดียวกัน การกระทำความผิดของจำเลยที่ 1 ทั้งสองคดีในความผิดฐานนี้ จึงเป็นความผิดกรรมเดียวแต่โดยเหตุที่คดีอาญาหมายเลขแดงที่ 15403/2526 ของศาลชั้นต้นในความผิดฐานดังกล่าวนั้นได้ปรากฏต่อมาว่าศาลฎีกาพิพากษายกฟ้องเนื่องจากเป็นฟ้องซ้อนกับคดีนี้ ดังนั้นแม้คดีดังกล่าวศาลชั้นต้นจะพิพากษาก่อนคดีนี้ให้ลงโทษจำเลยที่ 1 ก็ตามเมื่อศาลฎีกาได้พิพากษายกฟ้องเสียแล้วการกระทำความผิดในข้อหานี้จึงถือไม่ได้ว่าได้มีคำพิพากษาเสร็จเด็ดขาดในความผิดที่ได้ฟ้อง จึงไม่เป็นฟ้องซ้ำโจทก์จึงมีสิทธิฟ้องจำเลยที่ 1 กับพวกในความผิดฐานจัดหางานโดยเรียกและรับค่าบริการโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนเป็นคดีนี้ได้ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาลงโทษจำเลยที่ 1 นั้นชอบแล้ว ฎีกาของจำเลยที่ 1 ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน.