แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เครื่องหมายการค้าของโจทก์ร่วมและที่จำเลยทำขึ้นใช้คำว่า”KIKADA” เช่นเดียวกัน โดยแถบป้ายเครื่องหมายการค้าของโจทก์ร่วมใช้ผ้าพื้นสีกรมท่า ตัวอักษรคำว่า KIKADA สีเหลือง ส่วนที่จำเลยทำขึ้นใช้ผ้าพื้นสีขาว ตัวอักษรคำว่า KIKADA สีดำ ซึ่งต่างกันแต่เพียงสีของแถบป้ายกับสีของตัวอักษรและลีลาการเขียนตัวอักษรเท่านั้นแต่ชื่อที่เรียกขานเป็นชื่ออย่างเดียวกัน เครื่องหมายการค้าที่จำเลยทำขึ้นจึงคล้ายกับเครื่องหมายการค้าของโจทก์ร่วม เมื่อนำมาใช้กับสินค้าประเภทเดียวกันแล้วอาจทำให้ผู้ซื้อหลงผิดว่าเป็นสินค้าของโจทก์ร่วมได้ ในความรับผิดทางอาญา หากนิติบุคคลกระทำความผิดนอกจากนิติบุคคลจะต้องรับผิดแล้ว ผู้ที่มีส่วนในการกระทำความผิดย่อมต้องรับผิดด้วย โดยไม่คำนึงว่าผู้นั้นจะเป็นกรรมการของนิติบุคคลหรือไม่เมื่อจำเลยเป็นผู้ดำเนินการเกี่ยวกับกิจการของบริษัทก. จำกัดที่ยึดได้เครื่องหมายการค้าที่เลียนแบบโจทก์ร่วมเป็นของกลางจำเลยย่อมมีความผิดทางอาญาด้วย
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า ผู้เสียหายจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า คำว่า”KIKADA” สำหรับสินค้าจำพวกป้ายคอเสื้อไว้ในราชอาณาจักร โดยกำหนดรูปแบบพื้นสีน้ำเงินและตัวอักษรสีทอง จำเลยได้เลียนแบบเครื่องหมายการค้าดังกล่าวของผู้เสียหายสำหรับสินค้าจำพวกป้ายคอเสื้อ โดยทำเป็นเนื้อผ้าต่วนพื้นสีขาว ตัวอักษรสีดำ เพื่อให้ประชาชนหลงเชื่อว่าเป็นเครื่องหมายการค้าของผู้เสียหาย ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 274, 33 และริบของกลาง
จำเลยให้การปฏิเสธ
ระหว่างพิจารณาของศาลชั้นต้น ผู้เสียหายยื่นคำร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ ศาลชั้นต้นอนุญาต
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง แต่ของกลางให้ริบ
โจทก์และโจทก์ร่วมอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับเป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 274 จำคุก 2 เดือน ปรับ 1,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้ 1 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56ริบของกลาง
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยว่า จำเลยกระทำความผิดตามฟ้องหรือไม่ จำเลยฎีกาว่า จำเลยมิใช่กรรมการผู้จัดการบริษัทแกมม่าสไตล์ จำกัด จำเลยเป็นเพียงลูกจ้างของบริษัทดังกล่าวไม่มีส่วนรู้เห็นในการทำแถบป้ายเครื่องหมายการค้าของกลางนั้น เห็นว่า เมื่อพยานหลักฐานโจทก์รับฟังได้ว่าจำเลยเป็นผู้ดำเนินการบริษัทแกมม่าสไตล์ จำกัด หรือร้านแกมม่าสไตล์ที่รับทำแถบป้ายเครื่องหมายการค้าของโจทก์ร่วม และถือโอกาสทำเลียนเครื่องหมายการค้าดังกล่าวแล้วจำหน่ายแก่ผู้ที่นำไปติดปลอมสินค้าของโจทก์ร่วม กล่าวคือ แถบป้ายเครื่องหมายการค้าของโจทก์ร่วมที่จดทะเบียนไว้ใช้ผ้าพื้นสีกรมท่า ตัวอักษรคำว่า KIKADA สีเหลืองแต่ที่จำเลยทำขึ้นใช้ผ้าพื้นสีขาว ตัวอักษรคำว่า KIKADA สีดำ ซึ่งต่างกันแต่เพียงสีของแถบป้ายกับสีของตัวอักษรและลีลาการเขียนตัวอักษรเท่านั้น แต่ชื่อที่เรียกขานเป็นชื่ออย่างเดียวกันเครื่องหมายการค้าของจำเลยจึงคล้ายกับเครื่องหมายการค้าของโจทก์ร่วมซึ่งเมื่อนำมาใช้กับสินค้าประเภทเดียวกันแล้ว อาจทำให้ผู้ซื้อหลงผิดได้ การกระทำของจำเลยจึงเป็นการเลียนเครื่องหมายการค้าของผู้อื่นซึ่งได้จดทะเบียนแล้ว เพื่อให้ประชาชนหลงเชื่อว่าเป็นเครื่องหมายการค้าของผู้อื่นนั้น จำเลยจึงต้องมีความผิดดังโจทก์ฟ้องที่จำเลยฎีกาว่า จำเลยมีหนังสือรับรองการจดทะเบียนมาแสดงว่าจำเลยมิใช่กรรมการของบริษัทแกมม่าสไตล์ จำกัด จึงน่าเชื่อยิ่งกว่าคำพยานโจทก์นั้น เห็นว่าในความรับผิดทางอาญา หากนิติบุคคลกระทำความผิด นอกจากนิติบุคคลจะต้องรับผิดแล้ว ผู้ที่มีส่วนในการกระทำความผิดย่อมต้องรับผิดด้วย โดยไม่คำนึงถึงว่าผู้นั้นจะเป็นกรรมการของนิติบุคคลหรือไม่ ดังนั้นเมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยเป็นผู้ดำเนินการเกี่ยวกับกิจการของบริษัทแกมม่าสไตล์ จำกัดที่ยึดได้เครื่องหมายการค้าที่เลียนแบบเป็นของกลาง จำเลยจึงต้องมีความผิด ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำเลยชอบแล้ว
พิพากษายืน