คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 362/2503

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ประเด็นในคดีมีว่า จำเลยได้ตกลงขายที่ดินที่ดินตามโฉนดซึ่งได้รับมรดกมาจากบิดาเฉพาะส่วนของจำเลยและไม่ใช่ที่ริมแม่น้ำให้แก่โจทก์ตามที่โจทก์ฟ้อง หรือว่าจำเลยขายที่ดินอีกส่วนหนึ่ง ซึ่งเป็นที่ริมแม่น้ำ อันจำเลยได้มรดกเพิ่มขึ้นเป็นพิเศษ ให้แก่โจทก์ดั่งที่จำเลยต่อสู้ เช่นนี้ หน้าที่นำสืบก่อนย่อมตกแก่โจทก์

ย่อยาว

คดีนี้มีประเด็นว่า จำเลยได้ตกลงขายที่ดินตามโฉนด ๒๒๑๖ ซึ่งได้รับมรดกมาจากบิด เฉพาะส่วนของจำเลยเป็นจำนวนเนื้อที่ประมาณ ๓ ไร่ และไม่ใช่ที่ริมแม่น้ำ ให้แก่โจทก์ตามที่โจทก์ฟ้อง หรือว่าจำเลยขายที่ดินอีกส่วนหนึ่งซึ่งเป็นที่ริมแม่น้ำอันจำเลยได้มรดกเพิ่มขึ้นเป็นพิเศษตามเอกสารหมาย ล.๑ ให้แก่โจทก์ดั่งที่จำเลยต่อสู้
ในวันชี้สองสถาน ศาลชั้นต้นสั่งให้โจทก์นำสืบก่อน ถึงวันนัดสืบพยานโจทก์ ต่างฝ่ายต่างส่งอ้างเอกสารและต่างรับรองเอกสารนั้นนั้น และรับข้อเท็จจริงกันบางประการ แล้วทั้งสองฝ่ายต่างไม่สืบพยานอื่นอีก
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า โจทก์มีหน้าที่ต้องนำสืบให้สมฟ้อง จึงจะชนะคดีได้ แต่หลักฐานเท่าที่มีอยู่ในสำนวนไม่พอจะชี้ว่า ที่ดินที่โจทก์ฟ้องเป็นที่ ๆ จำเลยขายให้แก่โจทก์จึงให้ยกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า คดีโจทก์มีน้ำหนักน่ารับฟังมากกว่า จึงพิพากษากลับศาลชั้นต้น ให้จำเลยทำสัญญาโอนขายที่ดินเฉพาะส่วนของจำเลยตามโฉนด ๒๒๑๖ ให้แก่โจทก์
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นชอบด้วย ที่ศาลชั้นต้นให้เป็นหน้าที่โจทก์ต้องนำสืบก่อน และเห็นว่า ตามหลักฐานในสำนวนคดีควรต้องฟังว่า จำเลยไม่ได้ตกลงขายที่ ๆ ฟ้องให้แก่โจทก์ แต่ได้ตกลงขายที่อีกแห่งหนึ่งซึ่งได้มอบให้แก่โจทก์เสร็จสิ้นกันไปแล้วตามที่จำเลยต่อสู้
ศาลฎีกาพิพากษากลับศาลอุทธรณ์ ให้ยกฟ้องโจทก์ตามศาลชั้นต้น

Share