คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 360/2530

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโดยวินิจฉัยข้อเท็จจริงว่า ม.สามีโจทก์มิได้โอนเช็คให้โจทก์ โจทก์จึงมิใช่ผู้ทรงเช็ค มิใช่ผู้เสียหาย โจทก์อุทธรณ์ว่าโจทก์เป็นผู้ทรงเช็คและเป็นผู้เสียหาย อุทธรณ์ของโจทก์จึงเป็นข้อเท็จจริงต้องห้ามตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงและวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวง พ.ศ. 2499 มาตรา 22 ประกอบกับพระราชบัญญัติให้นำวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวงมาใช้บังคับในศาลจังหวัด พ.ศ. 2520 มาตรา 3 ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยปัญหาดังกล่าวจึงเป็นการไม่ชอบ โจทก์ไม่มีสิทธิฎีกาปัญหาข้อนี้
ปัญหาข้อกฎหมายที่โจทก์มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแต่ในศาลชั้นต้นเพิ่งมายกขึ้นอ้างในชั้นอุทธรณ์ ต้องห้ามอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 195 ที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยจึงเป็นการไม่ชอบ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. ๒๔๙๗ มาตรา ๓ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๘๓, ๙๑
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว วินิจฉัยว่าโจทก์ไม่ใช่ผู้เสียหายพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง โดยวินิจฉัยข้อเท็จจริงว่านายมังกรสามีโจทก์มิได้โอนเช็คให้โจทก์ โจทก์จึงมิใช่ผู้ทรงเช็ค มิใช่ผู้เสียหาย โจทก์อุทธรณ์ปัญหาข้อเท็จจริงว่า โจทก์เป็นผู้ทรงเช็ค เป็นผู้เสียหาย อุทธรณ์ของโจทก์จึงต้องห้ามตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงและวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวง พ.ศ. ๒๔๙๙ มาตรา ๒๒ ประกอบกับพระราชบัญญัติให้นำวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวงมาใช้บังคับในศาลจังหวัด พ.ศ. ๒๕๒๐ มาตรา ๓ ที่ศาลอุทธณณ์วินิจฉัยปัญหาดังกล่าวเป็นการไม่ชอบ ต้องถือว่าข้อเท็จจริงเป็นอันยุติตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้น โจทก์ไม่มีสิทธิฎีกาปัญหาข้อนี้ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้
ส่วนฎีกาของโจทก์ที่ว่า มูลหนี้ตามเช็คเป็นสินสมรสระหว่างนายมังกรสามีโจทก์กับโจทก์ ซึ่งโจทก์มีส่วนเป็นเจ้าของร่วมกับสามีครึ่งหนึ่งตามกฎหมายโจทก์จึงเป็นผู้ทรง ข้อนี้เห็นว่าเป็นปัญหาข้อกฎหมายที่โจทก์มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแต่ในศาลชั้นต้น เพิ่งมายกขึ้นอ้างในชั้นอุทธรณ์ จึงต้องห้ามอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๙๕ ที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยปัญหาข้อนี้เป็นการไม่ชอบ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้
พิพากษายกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์และยกฎีกาโจทก์

Share