แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
คำพ้องเป็นฟ้องจำเลยหลายคนแต่ข้อกล่าวหาแยกได้เป็น 2 ตอน ตอนแรกกล่าวหาว่า จำเลยสมคบกันพยายามลักทรัพย์ ในตอนหลังกล่าวหาจำเลยบางคนฐานชิงทรัพย์ประกอบด้วยเหตุฉกรรจ์อันมีอัตราโทษขั้นสุงสุดถึง 10 ปี ดังนี้เมื่อจำเลยที่ถูกกล่าวหาในตอนแรกรักสารภาพแล้ว ศาลพิพากษาลงโทษได้ตาม ม.176 วิ.อาญา.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า “เมื่อวันที่ ๓ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๙๑ เวลากลางคืนหลังเที่ยง จำเลยนี้ได้บังอาจสมคบกับเป็นคนร้ายเข้าไปในเรือนอันเป็นเคหะสถานที่อยู่อาศัยของขุนเวชการบริรักษ์ โดยจำเลยมิได้รับอนุญาตให้เข้าไปได้ แล้วกระทำการลักทรัพย์ของขุนเวชการบริรักษ์ แต่มีเหตุสุดวิสัยมาขัดขวางเสีย โดยนายโสรส วรสุมันต์ บุตรเจ้าทรัพย์รู้สึกตัว นายจรินทร์จำเลยได้เอาผ้าขาวม้าคลุมศีรษะนายโสรสๆ ได้ร้องขึ้น จำเลยจึงหลบหนีเอาทรัพยไปไม่ได้สมความประสงค์ของจำเลย และนายโสรสวิ่งตามทันนายนรินทร์จำเลย ๆ ได้ใช้ไฟฉายดินทางตีถูกหน้านายโสรส ๑ ทีมีบาดเจ็บ บาดแผลดังปรากฏตามรายงานชันสุตรของแพทย์ซึ่งโจทก์จะได้นำส่งศาลในวันพิจารณาทั้งนี้เพื่อจะปกปิดการกระทำผิดและเพื่อจะหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาสำหรับความผิดของจำเลย เหตุที่เกิที่ ฯลฯ”
จำเลยทั้ง ๓ รับสารภาพ
ศาลชั้นต้นสืบพยานดจทก์ ๒ ปากแล้ว พิพากษาว่าจำเลยผิด ม.๓๐๐,๖๐ จำคุกคนละ ๔ ปี นายอุทิศ เป็นเด็กลงโทษกึ่งหนึ่งและลดรับสารภาพกึ่ง คงจำคุก นายอุทิศ ๑ ปี นอกนั้นคนละ ๒ ปี
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า คดีไม่พอฟังลงโทษนายอุทิศคดีอุฉกรรจ์โจทก์ต้องสืบให้เป็นที่พอใจศาลว่าจำเลยทำผิด พิพากษาแก้ให้ยกฟ้องเฉพาะนายอุทิศ ลงโทษนายชวลิตตาม ม.๒๙๐,๒๙๔ จำคุก ๑ ปี ส่วนนายนรินทร์คนเดียวผิดฐานชิงทรัพย์ให้เป็นไปตามศาลเดิม
โจทก์ฎีกา เฉพาะนายอุทิศคนเดียวว่า ฟ้องเพียงสมคบกันพยายามลักทรัพย์เมื่อรับสารภาพแล้ว พิพากาลงโทษได้
ศาลฎีกาเห็นว่า คำฟ้องแยกกล่าวหาเป็น ๒ ตอน ๆ แรกกล่าวหาว่าสมคบกับพยายามลักทรัพย์ ตอนหลังกล่าวหานายนรินทร์จำเลยคนเดียวว่าทำร้าย ส. บาดเจ็บ เพื่อปกปิดและหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญา ข้อหาส่วนตัวนายอุทิศเข้ามาตรา ๒๙๕,๖๐ ซึ่งอัตราโทษจำคุกอย่างสูงไม่ถึง ๑๐ ปี เมื่อรับสารภาพตามฟ้อง พิพากษาลงโทษได้
อนึ่งที่ศาลอุทธรณ์ลงโทษนายชวลิตตามาตรา ๒๙๐,๒๙๔,๖๐ นั้น คลาดเคลื่อน แท้จริงนายชวลิตผิดมาตรา ๒๙๔,๖๐ เช่นเดียวกับนายอุทิศ แต่โจทก์มิได้ฎีกาในส่วนตัวนายชวลิต จึงไม่มีเหตุแก้ไข
พิพากษาแก้ให้จำคุกนายอุทิศ ๒ ปี วางโทษกึ่งหนึ่งฐานเป็นเด็กและลดรับกึ่ง คงจำคุก ๖ เดือน นับต่อโทษ