คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 360/2481

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

กรณีที่ถือว่าเป็นฎีกาในข้อเท็จจริง

ย่อยาว

จำเลยต้องหาว่าแจ้งความเท็จชั้นสอบสวนจำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นฟังว่าจำเลยเบิกความชั้นสอบสวนว่า นายเงินมาบอกขายควายแก่พะยาน ๆ ได้ลงไปดูควายกับนายเงิน แต่ในชั้นศาลว่าไม่ได้ไปดูควาย โจทก์มีพะยานว่าจำเลยได้ให้การไว้ชั้นสอบสวน กับมีปลัดอำเภอมาเบิกความว่าจำเลยเบิกความในชั้นศาลไม่ตรงกับชั้นสอบสวน พะยานได้เรียกจำเลยมาสอบสวน จำเลยให้การว่าชั้นศาลจริง ชั้นสอบสวนไม่จริง แต่ไม่จริงตรงไหนไม่ได้จดไว้ ศาลชั้นต้นเห็นว่าคดีไม่ได้ความว่าจำเลยแจ้งความเท็จอย่างไรให้ยกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า โจทก์มีพะยานแต่ว่าจำเลยรับว่าได้แจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงานเท่านั้น แต่ไม่มีพะยานว่าคำแจ้งความของจำเลยเป็นเท็จ จึงพิพากษายืน
โจทก์ฎีกาอ้างว่าเป็นปัญหาข้อกฎหมายว่า ตามรูปคดีเช่นนี้ โจทก์มีหน้าที่นำพะยานมาสืบถึงความเท็จแห่งถ้อยคำของจำเลยอีกหรือไม่
ศาลฎีกาตัดสินว่า ฎีกาโจทก์เป็นข้อเท็จจริง โดยอ้างว่าศาลล่างชี้ขาดข้อเท็จจริงมาแล้วว่า จำเลยไม่ได้แจ้งความเท็จ ซึ่งเป็นคำชี้ขาดในข้อเท็จจริง
คดีนี้โจทก์สืบพะยานไปแล้ว จำเลยจึงนำพะยานเข้าสืบ ฉะนั้นข้อที่โจทก์อ้างว่าเป็นปัญหากฎหมายนั้น เท็จจริงโจทก์สืบไปแล้วปัญหาเรื่องหน้าที่นำสืบจึงไม่มี
จึงพิพากษายืนตามศาลล่าง

Share