คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 358/2509

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ผู้ร้องขัดทรัพย์กล่าวในคำร้องขอให้ปล่อยทรัพย์ที่โจทก์นำยึดว่าจำเลยไม่มีสิทธิรับมรดกของ ค. โจทก์ไม่มีสิทธิยึดทรัพย์พิพาท ผู้ร้องย่อมนำสืบได้ว่า ก.ภริยาจำเลยได้ขอร้องบรรดาพี่น้องขอแบ่งเงินสดและได้ตกลงแบ่งเงินสดให้ ก. ก.สละสิทธิไม่เกี่ยวข้องในทรัพย์มรดกต่อไป เป็นเรื่องที่อยู่ในประเด็นตามคำร้องที่นำสืบได้.

ย่อยาว

ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า ทรัพย์ที่โจทก์นำยึดมิใช่ของจำเลย แต่เป็นของนางคำมารดาผู้ร้อง นางคำตายผู้ร้องมีส่วนได้รับมรดกของนางคำจำเลยไม่มีสิทธิจะได้รับ ขอให้ถอนการยึด
โจทก์ค้านว่านางกาบจันทร์ภริยาจำเลยเป็นบุตรของนางคำ มีสิทธิได้รับมรดก ทรัพย์มรดกที่นางกาบจันทร์มีสิทธิได้รับจึงเป็นสินสมรสระหว่างจำเลยกับนางกาบจันทร์ โจทก์มีสิทธิยึด
ผู้ร้องยื่นคำร้องขอเพิ่มเติมคำร้องว่า แม้นางกาบจันทร์ภริยาจำเลยจะเป็นบุตรของนางคำ มีสิทธิได้รับมรดก แต่นางกาบจันทร์ก็ได้ทำสัญญาขอรับส่วนแบ่งเป็นเงินสด ๗๐,๐๐๐ บาท โดยสละสิทธิไม่เกี่ยวข้องในทรัพย์มรดกต่อไปแล้ว ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำร้อง
ศาลชั้นต้นฟังข้อเท็จจริงว่านางกาบจันทร์ได้รับส่วนแบ่งเป็นเงินสดไปแล้ว ให้ถอนการยึดทรัพย์พิพาททั้งหมด ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ตามที่ผู้ร้องนำสืบว่า หลังจากนางคำตายแล้ว นางกาบจันทร์ได้ขอร้องบรรดาพี่น้องขอแบ่งเงินสด เพื่อจะเอาไปทำการค้าขาย และได้ตกลงแบ่งเงินสดให้นางกาบจันทร์ ๗๐,๐๐๐ บาท โดยนางจันทร์สละสิทธิไม่เกี่ยวข้องในทรัพย์มรดกต่อไปนั้น จะเป็นการนำสืบนอกประเด็นตามคำร้องและจะรับฟังได้เพียงใดหรือไม่ เพราะศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าให้ยกคำร้องของผู้ร้องที่พอเพิ่มเติมคำร้องเสียแล้ว ศาลฎีกาเห็นว่า ตามคำร้องของผู้ร้องได้กล่าวไว้แล้วว่า จำเลยไม่มีสิทธิได้รับมรดกของนางคำ โจทก์ไม่มีสิทธิยึดทรัพย์พิพาท ฉะนั้น การที่ผู้ร้องนำสืบดังกล่าว จึงเป็นการนำสืบรายละเอียดเพื่อแสดงว่าจำเลยไม่มีสิทธิในทรัพย์มรดกของนางคำเพราะเหตุใด จึงอยู่ในประเด็นตามคำร้องที่นำสืบได้
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า นางกาบจันทร์ได้ทำสัญญารับเงินสดไปแล้วจริง โจทก์ไม่มีสิทธินำยึด
พิพากษายืน.

Share