แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การที่โจทก์ฟ้องให้จำเลยแบ่งทรัพย์ที่โจทก์อ้างว่าเป็นทรัพย์ที่โจทก์และ ส. ทำมาหาได้ด้วยกัน จึงเป็นฟ้องให้แบ่งทรัพย์ที่ตนเป็นเจ้าของรวมจากจำเลยซึ่งเป็นทายาทของ ส. คดีโจทก์ไม่มีอายุความ
กรณีที่เจ้าของรวมฟ้องให้แบ่งทรัพย์จากเจ้าของรวมอีกคนหนึ่ง จะนำอายุความเรื่องละเมิดหรือฝากทรัพย์มาบังคับไม่ได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า เมื่อประมาณ ๘ ปีมานี้ โจทก์ที่ ๑ ได้เป็นสามีภริยากับนายสำรวย ไม้เกตุ ไม่ได้จดทะเบียนสมรส โจทก์ที่ ๑ มีเงินสด ๑,๐๐๐ บาท และทองรูปพรรณหนัก ๒ บาท ราคา ๘๐๐ บาท ได้ช่วยกันประกอบอาชีพ เกิดมีทรัพย์สินตามบัญชีทรัพย์อันดับ ๑ ราคาประมาณ ๗,๐๐๐ บาท ต่อมาโจทก์ที่ ๑ มีครรภ์แล้วคลอดบุตรคือโจทก์ที่ ๒ ต่อมานายสำรวยจดทะเบียนสมรสกับจำเลย นายสำรวยถึงแก่กรรม มีทรัพย์สินตามบัญชีทรัพย์ท้ายฟ้องอันดับ ๑ และ ๒ ทรัพย์อันดับ ๑ โจทก์ที่ ๑ กับนายสำรวยทำมาหาได้ร่วมกัน ส่วนของนายสำรวยอีกครึ่งหนึ่งกับทรัพย์อันดับ ๒ ตกทอดได้แก่ทายาท ๓ คน รวมทั้งโจทก์ที่ ๒ ขอให้ศาลบังคับให้จำเลยแบ่งทรัพย์ให้โจทก์
จำเลยให้การปฏิเสธและว่าคดีโจทก์ขาดอายุความ
ศาลชั้นต้นเห็นว่าทรัพย์ตามบัญชีท้ายฟ้องอันดับ ๑ ไม่ใช่ทรัพย์ที่ทำมาหาได้ระหว่างนายสำรวยกับโจทก์ที่ ๑ อยู่กินด้วยกัน และโจทก์ที่ ๒ ไม่ใช่บุตรของนายสำรวย พิพากษายกฟ้อง
โจทก์ทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า ทรัพย์ตามบัญชีอันดับ ๑ เกิดขึ้นโดยทำมาหากินด้วยกันจริง โจทก์ที่ ๒ ไม่เป็นบุตรของนายสำรวย โดยบิดาได้รับรองแล้ว ไม่มีสิทธิขอแบ่ง
พิพากษาแก้ เป็นให้จำเลยแบ่งทรัพย์ตามบัญชีทรัพย์อันดับ ๑ ให้แก่โจทก์ที่ ๑ ครึ่งหนึ่ง ฯลฯ
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ที่ศาลอุทธรณ์ฟังว่าทรัพย์อันดับ ๑ เป็นทรัพย์ที่โจทก์ที่ ๑ ทำมาหาได้กับนายสำรวยระหว่างอยู่กินด้วยกันชอบแล้ว ข้อที่จำเลยฎีกาว่าคดีโจทก์ขาดอายุความแล้วนั้น เห็นว่า คดีโจทก์ที่ ๑ ฟ้องให้จำเลยแบ่งทรัพย์ซึ่งโจทก์ที่ ๑ อ้างว่าเป็นทรัพย์ที่โจทก์ที่ ๑ และนายสำรวยทำมาหาได้ด้วยกัน ฟ้องโจทก์จึงเป็นฟ้องให้แบ่งทรัพย์ที่ตนเป็นเจ้าของรวมจากจำเลยซึ่งเป็นทายาททนายสำรวย คดีโจทก์ไม่มีอายุความเพราะกรณีนี้เป็นกรณีเจ้าของรวมเรียกให้แบ่งทรัพย์จากเจ้าของรวมอีกคนหนึ่ง จะนำอายุความเรื่องละเมิดหรือเรื่องฝากทรัพย์มาบังคับไม่ได้
พิพากษายืน