แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ป.นำเอาลูกระเบิดมือออกมาจากกระเป๋ากางเกง ย่อมแสดงว่าเป็นของที่ ป.นำมาเองอันแสดงถึงความเป็นเจ้าของแต่ผู้เดียว และตามสภาพที่เป็นลูกระเบิดมือลูกเดียวเป็นของมีไว้ผิดกฎหมายต้องซุกซ่อนไว้ การได้มารวมโดยอ้างถึงการใช้ก็ย่อมเป็นเรื่องตัวคนเดียว มีโอกาสที่จะมีร่วมกันได้ยาก เพียงแต่จำเลยได้รับลูกระเบิดมือที ป. โยนไปยังจำเลยแล้วโยนขึ้นฟ้าและโยนกลับไปให้ ป. แม้จะถือว่าเป็นการโยนเล่นด้วยกัน ก็ยังไม่พอถือว่าเป็นการร่วมมีลูกระเบิดมือกับ ป.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิงและสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.๒๔๙๐ มาตรา ๕๕, ๗๘ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๒, ๘๓ ริบลูกระเบิดขว้างของกลาง
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.๒๔๙๐ มาตรา ๕๕, ๗๘ ที่แก้ไขแล้ว จำเลยอายุ ๑๗ ปี ลดมาตราส่วนโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๔ กึ่งหนึ่ง คงจำคุก ๓ ปีริบของกลาง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า ในวันเกิดเหตุนายสุรัตน์พบจำเลยอยู่กับนายปราโมทย์ นายปราโมทย์นำลูกระเบิดมือลูกหนึ่งออกมาจากกระเป๋ากางเกงและโยนขึ้นไปบนอากาศหลายครั้งแล้วโยนให้จำเลยรับจำเลยรับแล้วโยนขึ้นไปบนอากาศครั้งหนึ่งแล้วโยนกลับไปให้นายปราโมทย์ ซึ่งโยนลูกระเบิดมือเล่นอีกหลายครั้งจนตกลงไปที่พื้นดิน นายสุรัตน์ไปแจ้งความต่อเจ้าพนักงานตำรวจ นายปราโมทย์เอาลูกระเบิดมือไปซ่อนไว้ที่บริเวณ คันนาเจ้าพนักงานตำรวจไปยังที่เกิดเหตุ ค้นตัวนายปราโมทย์และจำเลยไม่พบอะไรต่อเมื่อไปค้นที่บริเวณคันนาจึงพบลูกระเบิดมืองของกลาง แล้วได้ตามจับจำเลยกับนายปราโมทย์มาได้ ได้ดำเนินคดีแก่นายปราโมทย์เป็นอีกคดีหนึ่ง นายปราโมทย์ให้การรับสารภาพว่าลูกระเบิดมือเป็นของตน ศาลพิพากษาลงโทษ คดีถึงที่สุดแล้วซึ่งเป็นข้อเท็จจริงตามทางนำสืบของโจทก์ เช่นนี้เห็นว่า โจทก์มิได้นำสืบข้อเท็จจริงใดที่แสดงว่าจำเลยได้ร่วมมีลูกระเบิดมือของกลางกับนายปราโมทย์ ที่ปรากฏจากทางนำสืบ
ของโจทก์ว่า นายปราโมทย์นำเอาลูกระเบิดมือออกจากกระเป๋ากางเกงย่อมแสดงว่าเป็นของที่นายปราโมทย์นำมาเองอันแสดงถึงความเป็นเจ้าของแต่ผู้เดียว ตามสภาพที่เป็นลูกระเบิดมือลูกเดียวเป็นของมีไว้ผิดกฎหมายต้องซุกซ่อนไว้ การได้มารวมตลอดถึงการใช้ก็ย่อมเป็นเรื่องตัวคนเดียวมีโอกาสที่จะมีร่วมกันได้ยาก เพียงแต่จำเลยได้รับลูกระเบิดมือที่นายปราโมทย์โยนไปยังจำเลยแล้วโดยนขึ้นฟ้าและโยนกลับไปให้นายปราโมทย์ แม้จะถือว่าเป็นการโยนเล่นด้วยกัน ก็ยังไม่ขอถือว่าเป็นการร่วมมีลูกระเบิดมือของกลางกับนายปราโมทย์ นอกจากนี้นายปราโมทย์ถูกฟ้องและได้รับสารภาพว่าลูกระเบิดมือเป็นของตนและได้มาเป็นพยานจำเลยเบิกความในทำนองว่านายปราโมทย์เป็นเจ้าของลูกระเบิดมือของกลางแต่ผู้เดียว พยานหลักฐานโจทก์จึงไม่พอฟังว่าจำเลยมีลูกระเบิดมือขอกลาง
พิพากษายืน