คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3576/2541

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คดีซึ่งห้ามมิให้นำพยานบุคคลมาสืบแทนพยานเอกสารหรือสืบพยานบุคคลเพื่อเพิ่มเติมตัดทอนหรือเปลี่ยนแปลงแก้ไขในเอกสารตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94 นั้น ได้แก่คดีซึ่งกฎหมายบังคับให้ต้องมีพยานเอกสาร มาแสดง แต่คดีความผิดฐานลักทรัพย์หาได้มีกฎหมายบังคับ ไว้เช่นนั้นไม่ คู่ความจึงอาจนำพยานหลักฐานใด ๆ มาสืบสนับสนุนข้ออ้างหรือข้อต่อสู้ของตนได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสามตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83, 335, 336 ทวิ
จำเลยทั้งสามให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยที่ 2 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83, 335(7)(11) วรรคสาม จำเลยที่ 3 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 335(7) วรรคแรก ลงโทษจำคุกจำเลยที่ 2 มีกำหนด 3 ปี 6 เดือน จำคุกจำเลยที่ 3 มีกำหนด 3 ปีจำเลยที่ 3 ให้การรับสารภาพลดโทษให้หนึ่งในสาม คงจำคุก 2 ปี ให้ยกฟ้องสำหรับจำเลยที่ 1 คำขออื่นให้ยก
จำเลยที่ 2 และที่ 3 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน
จำเลยที่ 2 และที่ 3 ฎีกา โดยผู้พิพากษาซึ่งลงชื่อในคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1 และศาลชั้นต้นอนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
จำเลยที่ 3 ฎีกา โดยผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาและลงชื่อในคำพิพากษาศาลชั้นต้นอนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อเท็จจริงเชื่อว่าน้ำมันเตาของกลางเป็นน้ำมันเตาส่วนหนึ่งในจำนวน 12,000 ลิตร ที่จำเลยที่ 3นำไปส่งมอบให้แก่ผู้เสียหาย แล้วจำเลยที่ 2 และที่ 3 ได้ร่วมกันเอาน้ำมันเตาจำนวน 4,000 ลิตร ดังกล่าวไปเป็นประโยชน์ของตนโดยทุจริตการกระทำของจำเลยที่ 2 และที่ 3 จึงเป็นการร่วมกันลักทรัพย์ของผู้เสียหาย อันเป็นความผิดตามฟ้อง
ส่วนที่จำเลยที่ 2 และที่ 3 ฎีกาว่า น้ำมันเตาจำนวน 4,000 ลิตรยังอยู่ในถังน้ำมันบนรถยนต์บรรทุก ต้องถือว่าจำเลยที่ 3ไม่ได้ส่งมอบให้แก่ผู้เสียหาย กรรมสิทธิ์ในน้ำมันเตาจำนวนดังกล่าวไม่โอนไปยังผู้เสียหาย ผู้เสียหายจึงไม่ได้รับความเสียหาย ไม่เป็นผู้เสียหายโดยนิตินัย ไม่มีอำนาจร้องทุกข์ โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องนั้นเห็นว่า ตามใบส่งของเงินเชื่อเอกสารหมาย จ.3 และ จ.4 ระบุว่าผู้เสียหายได้รับมอบน้ำมันเตาจำนวน 12,000 ลิตร แล้ว น้ำมันเตาจำนวน 4,000 ลิตร เป็นส่วนหนึ่งของน้ำมันเตาจำนวนดังกล่าวจึงเป็นของผู้เสียหาย การที่จำเลยที่ 2 และที่ 3 ร่วมกันเอาน้ำมันเตานั้นไปจากความครอบครองของผู้เสียหายโดยทุจริตอันเป็นความผิดฐานลักทรัพย์ดังได้วินิจฉัยมาแล้ว ผู้เสียหายจึงมีอำนาจร้องทุกข์และโจทก์มีอำนาจฟ้อง
สำหรับข้อฎีกาของจำเลยที่ 2 และที่ 3 ที่ว่า ตามใบส่งของเงินเชื่อเอกสารหมาย จ.3 และ จ.4 ระบุว่า ผู้เสียหายได้รับมอบน้ำมันเตา จำนวน 12,000 ลิตร ไว้ถูกต้องแล้วจึงต้องฟังข้อเท็จจริงไปตามนั้น การฟังพยานบุคคลแก้ไขเปลี่ยนแปลงเอกสารดังกล่าว เป็นการไม่ชอบนั้น เห็นว่า คดีซึ่งห้ามมิให้นำพยานบุคคลมาสืบแทนพยานเอกสารหรือสืบพยานบุคคลเพื่อเพิ่มเติมตัดทอนหรือเปลี่ยนแปลงแก้ไขในเอกสารนั้นได้แก่คดีซึ่งกฎหมายบังคับให้ต้องมีพยานเอกสารมาแสดง แต่คดีความผิดฐานลักทรัพย์หาได้มีกฎหมายบังคับไว้เช่นนั้นไม่ คู่ความจึงอาจนำพยานหลักฐานใด ๆ มาสืบสนับสนุนข้ออ้างหรือข้อต่อสู้ของตนได้
พิพากษายืน

Share