แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าเป็นอักษรโรมัน EDWINและมีข้อความเป็นคำขวัญกำกับข้างล่างว่า SOLDONLYATTHEFINESTSTORES ที่ประเทศญี่ปุ่น ก่อนจำเลยที่ 2 จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าอักษรโรมันว่า EDWIN ในประเทศไทย 3 ปี การที่จำเลยที่ 2 ผลิตกางเกงยีนออกจำหน่ายในประเทศไทยโดยใช้เครื่องหมายการค้าคำว่า EDWIN มีลักษณะเป็นการเขียนแตกต่างจากเครื่องหมายการค้าที่จำเลยที่ 2 ได้จดทะเบียนไว้ แต่กางเกงยีนที่จำเลยที่ 2 ผลิตใช้เครื่องหมายการค้าอักษรโรมันมีลักษณะการเขียนเหมือนกับเครื่องหมายการค้าที่โจทก์จดทะเบียนไว้ทั้งยังมีข้อความว่า SOLDONLYATTHEFINESTSTORES ด้วย เหมือนกับเครื่องหมายการค้าของโจทก์และคำขวัญกำกับเครื่องหมายการค้าของโจทก์ทุกประการ นอกจากนี้กระดาษป้ายฉลากที่ติดอยู่กับกางเกงยีนดังกล่าวมีแบบ ขนาด สีสัน และข้อความเหมือนกันทุกประการ รวมทั้งที่ป้ายบอกขนาดและราคาซึ่งติดอยู่กับกางเกงยีนของจำเลยที่ 2ก็มีคำว่า “EDWIN” อยู่ใต้ข้อความที่เป็นภาษาญี่ปุ่น ซึ่งคำว่า”EDWIN” นี้ตรงกับที่ปรากฏอยู่ในป้ายบอกขนาดและราคาซึ่งติดอยู่กับกางเกงยีนของโจทก์อันหมายถึงว่าเครื่องหมายการค้าคำว่า”EDWIN” เป็นเครื่องหมายการค้าที่ได้รับการจดทะเบียนแล้ว ดังนี้แสดงให้เห็นแจ้งชัดถึงเจตนาของจำเลยที่ 2 ในการปลอมเครื่องหมายการค้า EDWIN ของโจทก์ โดยรู้อยู่แล้วว่าเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนดังกล่าวเป็นของโจทก์ที่ประเทศญี่ปุ่นและบริษัทโจทก์อยู่ในประเทศนั้นถือว่าเป็นการปลอมเครื่องหมายการค้าของโจทก์ที่ได้จดทะเบียนไว้นอกราชอาณาจักร และเป็นการเอาชื่อรูป รอยประดิษฐ์ หรือข้อความในการประกอบการค้าของโจทก์มาใช้เพื่อให้ประชาชนหลงเชื่อว่าสินค้าของจำเลยที่ 2 เป็นสินค้าของโจทก์กับเป็นการจำหน่ายซึ่งสินค้าอันเป็นสินค้าที่มีชื่อรูป รอยประดิษฐ์หรือข้อความในการประกอบการค้าของผู้อื่นและเป็นสินค้าที่มีเครื่องหมายการค้าปลอม จำเลยที่ 2 ประกอบกิจการค้าขายสินค้ากางเกงยีนด้วยการใช้เครื่องหมายการค้าของผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต ทำการปลอมเครื่องหมายการค้าของผู้อื่นและนำมาใช้กับสินค้าของตนในรูปของการตั้งเป็นโรงงานผลิตสินค้าดังกล่าวออกจำหน่ายแก่ประชาชนเป็นเวลานานถึงประมาณ 8 ปี กางเกงยีนและกระโปรงยีนที่มีเครื่องหมายการค้าปลอมของกลางมีจำนวนถึง 2,277 ตัว และกระดาษป้ายฉลากเครื่องหมายการค้าปลอมที่เตรียมไว้ใช้ติดกับสินค้ากางเกงยีนและกระโปรงยีนมีจำนวนถึง 28,880 แผ่น ทั้งโจทก์ได้บอกให้จำเลยที่ 2ระงับการผลิตกางเกงยีนโดยใช้เครื่องหมายการค้าของโจทก์ตั้งแต่ปลาย พ.ศ. 2531 ก่อนที่เจ้าพนักงานตำรวจจะไปตรวจค้นโรงงานของจำเลยที่ 2 เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2532 เป็นเวลาถึงประมาณ 1 ปีแต่จำเลยที่ 2 ก็ยังไม่ยอมหยุดผลิตกางเกงยีนดังกล่าว พฤติการณ์การกระทำความผิดของจำเลยที่ 2 ยังไม่มีเหตุสมควรให้รอการลงโทษจำคุกจำเลยที่ 2 ไว้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 91,272(1), 273, 274 และ 275
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่าคดีมีมูล ให้ประทับฟ้อง
จำเลยทั้งสามให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยที่ 1 และที่ 2มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 272(1), 273, 275ความผิดของจำเลยที่ 1 และที่ 2 เป็นความผิดสองกรรมต่างกัน ความผิดฐานปลอมเครื่องหมายการค้าตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 273 และความผิดฐานเอาชื่อรูปรอยประดิษฐ์หรือข้อความในการประกอบการค้าของผู้อื่นมาใช้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 272(1) เป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 273 อันเป็นบทหนัก ลงโทษจำเลยที่ 1 ปรับ 6,000 บาท ลงโทษจำเลยที่ 2 จำคุก1 ปี และปรับ 6,000 บาท ความผิดฐานจำหน่ายสินค้าอันเป็นสินค้าที่มีเครื่องหมายการค้าปลอมตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 275 ลงโทษจำเลยที่ 1 ปรับ 6,000 บาท ลงโทษจำเลยที่ 2 จำคุก 1 ปี และปรับ6,000 บาท รวมลงโทษจำเลยที่ 1 ปรับ 12,000 บาท ลงโทษจำเลยที่ 2จำคุก 2 ปี และปรับ 12,000 บาท ไม่ปรากฏว่าจำเลยที่ 2 ได้รับโทษจำคุกมาก่อน พิเคราะห์พฤติการณ์แห่งคดีแล้ว เห็นควรให้โอกาสจำเลยที่ 2 กลับตัวเป็นพลเมืองดี โทษจำคุกให้รอการลงโทษ 2 ปีคุมความประพฤติ 1 ปี ให้จำเลยที่ 2 ไปรายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติทุก 3 เดือน ต่อครั้ง หากจำเลยที่ 1 ไม่ชำระค่าปรับ ให้ยึดทรัพย์สินใช้ค่าปรับ หากจำเลยที่ 2 ไม่ชำระค่าปรับให้กักขังแทน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30 ริบของกลาง ข้อหาอื่นนอกจากนี้ให้ยกฟ้องและให้ยกฟ้องสำหรับจำเลยที่ 3 ทุกข้อหา
โจทก์อุทธรณ์ขอไม่ให้รอการลงโทษจำเลยที่ 2 โดยอัยการสูงสุดรับรองให้อุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง ส่วนจำเลยที่ 1 และที่ 2อุทธรณ์ขอให้ยกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ไม่รอการลงโทษให้จำเลยที่ 2และไม่ปรับจำเลยที่ 2 นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยที่ 1 และที่ 2 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า โจทก์จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าเป็นอักษรโรมันว่า EDWIN และมีข้อความเป็นคำขวัญกำกับข้างล่างว่าSOLD ONLY AT THE FINEST STORES ที่ประเทศญี่ปุ่น ก่อนจำเลยที่ 2 จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าอักษรโรมันว่า EDWIN ในประเทศไทยถึง 3 ปี การที่จำเลยที่ 2 ผลิตกางเกงยีนตามวัตถุพยานหมาย จ.20 ถึง จ.23 ออกจำหน่ายในประเทศไทย โดยใช้เครื่องหมายการค้าคำว่า EDWIN มีลักษณะการเขียนแตกต่างจากเครื่องหมายการค้าที่จำเลยที่ 2 ได้จดทะเบียนไว้ตามสำเนาหนังสือรับรองเอกสารหมาย จ.17โดยเฉพาะตัวอักษร “W” มิได้หักเป็นมุมแหลมแต่โค้งบน แต่กางเกงยีนที่จำเลยที่ 2 ผลิตตามวัตถุพยานหมาย จ.20 ถึง จ.23 ใช้เครื่องหมายการค้าอักษรโรมันมีลักษณะการเขียนเหมือนกับเครื่องหมายการค้าที่โจทก์จดทะเบียนไว้ ทั้งยังมีข้อความว่า SOLD ONLY AT THEFINEST STORES ด้วย เหมือนกับเครื่องหมายการค้าของโจทก์ และคำขวัญกำกับเครื่องหมายการค้าของโจทก์ทุกประการ นอกจากนี้หากเปรียบเทียบกางเกงยีนของโจทก์กับกางเกงยีนของจำเลยที่ 2 ตามวัตถุพยานหมาย จ.18 และ จ.23 แล้วจะเห็นว่ากระดาษป้ายฉลากที่ติดอยู่กับกางเกงยีนดังกล่าวมีแบบ ขนาด สีสัน และข้อความเหมือนกันทุกประการกล่าวคือ นอกจากปรากฏเครื่องหมายการค้าและคำขวัญดังกล่าวข้างต้นแล้ว ยังมีข้อความที่เห็นชัดเจนว่า “SYMBOL OF QUALITYPRODUCTS, TOKYO JAPAN, BUY YOUR EXACT SIZE, FRONT BUTTON,ONLY GENUINE, AMERICAN CLASSIC, JEANS EDWIN,EDWIN COMPANY LTD.” และกระดาษป้ายฉลากที่ติดอยู่กับกางเกงยีนของโจทก์กับของจำเลยที่ 2 ตามวัตถุพยานหมาย จ.19 และ จ.21ก็คล้ายกันทั้งรูปแบบและข้อความ กล่าวคือ มีรูปโลกคล้ายกันและมีข้อความต่อไปนี้เหมือนกันคือ “EDWIN, INTERNATIONAL BASIC,SUPERNEWTON” รวมทั้งที่ป้ายบอกขนาดและราคาซึ่งติดอยู่กับกางเกงยีนของจำเลยที่ 2 ตามวัตถุพยานหมาย จ.22 ก็มีคำว่า “EDWIN”อยู่ใต้ข้อความที่เป็นภาษาญี่ปุ่น ซึ่งคำว่า “EDWIN” นี้ตรงกับที่ปรากฏอยู่ในป้ายบอกขนาดและราคาซึ่งติดอยู่กับกางเกงยีนของโจทก์ตามวัตถุพยานหมาย จ.19 อันหมายถึงว่าเครื่องหมายการค้าคำว่า”EDWIN” เป็นเครื่องหมายการค้าที่ได้รับการจดทะเบียนแล้วข้อเท็จจริงดังกล่าวแสดงให้เห็นแจ้งชัดถึงเจตนาของจำเลยที่ 2ในการปลอมเครื่องหมายการค้า EDWIN ของโจทก์โดยรู้อยู่แล้วว่าเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนดังกล่าวเป็นของโจทก์ที่ประเทศญี่ปุ่นและบริษัทโจทก์อยู่ในประเทศนั้นถือว่าเป็นการปลอมเครื่องหมายการค้าของโจทก์ที่ได้จดทะเบียนไว้นอกราชอาณาจักร และเป็นการเอาชื่อรูป รอยประดิษฐ์ หรือข้อความในการประกอบการค้าของโจทก์มาใช้เพื่อให้ประชาชนหลงเชื่อว่าสินค้าของจำเลยที่ 2 เป็นสินค้าของโจทก์กับเป็นการจำหน่ายซึ่งสินค้าอันเป็นสินค้าที่มีชื่อ รูป รอยประดิษฐ์หรือข้อความในการประกอบการค้าของผู้อื่นและเป็นสินค้าที่มีเครื่องหมายการค้าปลอมจำเลยที่ 2 จึงมีความผิดตามที่ศาลอุทธรณ์พิพากษา ที่จำเลยที่ 2 ฎีกาว่า สินค้าของโจทก์ไม่มีจำหน่ายในประเทศไทย จึงถือไม่ได้ว่าจำเลยที่ 2 รู้ว่าโจทก์เป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้าดังกล่าวนั้น เห็นว่า การที่จำเลยที่ 2 ปลอมเครื่องหมายการค้าของโจทก์ได้ถูกต้องทุกประการกับทั้งระบุที่กระดาษป้ายฉลากที่ติดกับกางเกงยีนของจำเลยที่ 2 ตามวัตถุพยานหมาย จ.23 ว่า “TOKYO JAPAN, EDWIN COMPANY LTD.” ตรงกับของโจทก์ตามวัตถุพยานหมาย จ.18 และที่ป้ายบอกขนาดและราคาซึ่งติดอยู่กับกางเกงยีนของจำเลยที่ 2 ตามวัตถุพยานหมาย จ.22 ก็มีคำว่า”EDWIN” อยู่ใต้ข้อความที่เป็นภาษาญี่ปุ่นซึ่งคำว่า “EDWIN”นี้ตรงกับของโจทก์ที่ระบุไว้ตามวัตถุพยานหมาย จ.19 แสดงว่าจำเลยที่ 2 เคยเห็นสินค้ากางเกงยีนของโจทก์มาก่อนและรู้อยู่แล้วว่าโจทก์เป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้า EDWIN ซึ่งเป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนในประเทศญี่ปุ่นและสินค้าดังกล่าวผลิตโดยบริษัทโจทก์ ฎีกาข้อนี้ของจำเลยที่ 2 ฟังไม่ขึ้น ส่วนที่จำเลยที่ 2ฎีกาขอให้รอการลงโทษนั้นเห็นว่า จำเลยที่ 2 ประกอบกิจการค้าขายสินค้ากางเกงยีนด้วยการใช้เครื่องหมายการค้าของผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต ทำการปลอมเครื่องหมายการค้าของผู้อื่นและนำมาใช้กับสินค้าของตนในรูปของการตั้งเป็นโรงงานผลิตสินค้าดังกล่าวออกจำหน่ายแก่ประชาชนเป็นเวลานานถึงประมาณ 8 ปี กางเกงยีนและกระโปรงยีนที่มีเครื่องหมายการค้าปลอมของกลางมีจำนวนถึง 2,277 ตัว และกระดาษป้ายฉลากเครื่องหมายการค้าปลอมที่เตรียมไว้ใช้ติดกับสินค้ากางเกงยีนและกระโปรงยีนมีจำนวนถึง 28,880 แผ่น ทั้งโจทก์ได้บอกให้จำเลยที่ 2 ระงับการผลิตกางเกงยีนโดยใช้เครื่องหมายการค้าของโจทก์ตั้งแต่ปลาย พ.ศ. 2531 ก่อนที่เจ้าพนักงานตำรวจจะไปตรวจค้นโรงงานของจำเลยที่ 2 เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2532 เป็นเวลาถึงประมาณ 1 ปี แต่จำเลยที่ 2 ก็ยังไม่ยอมหยุดผลิตกางเกงยีนดังกล่าวพฤติการณ์การกระทำความผิดของจำเลยที่ 2 ยังไม่มีเหตุสมควรให้รอการลงโทษจำคุกจำเลยที่ 2 ไว้ ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาไม่รอการลงโทษจำเลยที่ 2 เหมาะสมแก่พฤติการณ์แห่งคดีแล้ว ฎีกาของจำเลยที่ 2ฟังไม่ขึ้น อย่างไรก็ตาม ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยที่ 2ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 273 และมาตรา 275 กระทงละ 1 ปีนั้นศาลฎีกาเห็นว่าหนักเกินไป สมควรแก้ไขให้เหมาะสมแก่พฤติการณ์แห่งคดี
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ลงโทษจำเลยที่ 2 ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 273 จำคุก 6 เดือน กระทงหนึ่ง และตามมาตรา 275 จำคุก6 เดือน กระทงหนึ่ง และตามมาตรา 275 จำคุก 6 เดือน อีกกระทงหนึ่งรวมให้จำคุกจำเลยที่ 2 ไว้มีกำหนด 1 ปี นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์