คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3576/2533

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ผู้ตายพูดว่า หัวล้านหรอยจัง แล้วใช้มือลูบศีรษะจำเลย จำเลยลุกออกจากวงสุราไป ต่อมาประมาณ 15 นาที จำเลยจึงถือปืนแก๊ปยาวมายิงผู้ตาย กรณีมิใช่เกิดจากโทสะที่พุ่งขึ้นเฉพาะหน้าขณะที่ผู้ตายใช้มือลูบศีรษะจำเลย แล้วจำเลยใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายทันที แต่เป็นกรณีที่จำเลยเกิดโทสะแล้วก็ออกจากวงสุราไป เกิดความคิดจะฆ่าผู้ตายในภายหลัง และเป็นพฤติการณ์ที่จำเลยจะต้องคิดไตร่ตรองตัดสินใจอย่างหนักเป็นเวลาถึง 15 นาที ในการตกลงใจกระทำผิด จึงเป็นการกระทำผิดโดยไตร่ตรองไว้ก่อน

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยใช้อาวุธปืนยิงผู้ตาย โดยเจตนาฆ่าและโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ผู้ตายถึงแก่ความตาย ขอให้ลงโทษ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘, ๒๘๙
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘, ๒๘๙ (๔)
โจทก์และจำเลยไม่อุทธรณ์ ศาลชั้นต้นส่งสำนวนมายังศาลอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๒๔๕
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงได้ความว่า ขณะจำเลยผู้ตายกับพวกนั่งดื่มสุรากันอยู่ ผู้ตายได้ถามจำเลยว่าเป็นลูกนางพร้อมใช่ไหม เมื่อจำเลยตอบว่าใช่ ผู้ตายก็พูดว่า หัวล้านหรอยจัง แล้วใช้มือลูบศีรษะจำเลย จำเลยลุกออกจากวงสุราไป ต่อมาประมาณ ๑๕ นาที จำเลยจึงถืออาวุธปืนแก๊ปยาวมายิงผู้ตาย เห็นว่า การที่จำเลยยิงผู้ตายมิได้เกิดจากโทสะพุ่งขึ้นเฉพาะหน้าขณะที่ผู้ตายใช้มือลูบศีรษะจำเลย แล้วจำเลยใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายทันที แต่เป็นกรณีที่จำเลยเกิดโทสะแล้วก็ออกจากวงสุราไปเกิดความคิดจะฆ่าผู้ตายในภายหลัง และเป็นพฤติการณ์ที่จำเลยจะต้องคิดไตร่ตรองตัดสินใจอย่างหนักเป็นเวลาถึง ๑๕ นาที ในการตกลงใจกระทำผิด จึงเป็นการกระทำผิดโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๙ (๔)
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้บังคับคดีตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

Share