คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 357/2511

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยพยายามที่จะให้คดีดำเนินไปอย่างล่าช้า กล่าวคือในเบื้องต้นจำเลยทำเป็นฟ้องแย้งแล้วปล่อยระยะเวลาให้ล่วงเลยไป โดยไม่นำเจ้าพนักงานไปส่งหมายเรียกและฟ้องแย้งให้โจทก์ ศาลจึงมีคำสั่งจำหน่ายคดีฟ้องแย้ง วันชี้สองสถานฝ่ายจำเลยไม่มาศาล วันสืบพยานจำเลยครั้งแรก ทนายจำเลยแถลงว่าปวดฟันขอเลื่อน ศาลอนุญาตและได้กำชับว่าหากมีกรณีขอเลื่อนไปอีกศาลจะไม่อนุญาตถ้าไม่มีเหตุผลที่หนักแน่นสมควร นัดที่ 2 โจทก์ขอเลื่อน นัดที่ 3 จำเลยขอเลื่อนโดยอ้างเหตุป่วยปวดฟัน ศาลอนุญาตให้เลื่อน และสั่งว่าจะอนุญาตให้จำเลยขอเลื่อนไปครั้งนี้ครั้งเดียว ในนัดหน้าจะไม่อนุญาตให้จำเลยเลื่อนไปอีกไม่ว่ากรณีใด นัดที่ 4 จำเลยขอเลื่อนอีก อ้างเหตุปวดฟัน โจทก์คัดค้าน ศาลจึงไม่อนุญาตให้เลื่อน ตามพฤติการณ์ที่ฝ่ายจำเลยดำเนินคดีตลอดมาดังกล่าวนี้ เป็นการประวิงคดีศาลจึงไม่อนุญาตให้เลื่อน

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขับไล่ให้จำเลยออกจากเคหะที่เช่า
จำเลยต่อสู้ว่า ได้รับความคุ้มครองจากพระราชบัญญัติควบคุมการเช่า ฯ และเป็นสัญญาต่างตอบแทน จึงฟ้องแย้งขอให้ศาลบังคับโจทก์ ให้จำเลยเช่าห้องพิพาทต่อไปอีก ๖ ปี
ศาลสั่งให้รับฟ้องแย้งและส่งสำเนาให้โจทก์แก้ แต่จำเลยไม่ไปนำเจ้าพนักงานส่งหมาย ศาลชั้นต้นจึงสั่งจำหน่ายฟ้องแย้ง
ศาลชั้นต้นกำหนดให้จำเลยเป็นฝ่ายนำสืบก่อน จำเลยขอเลื่อนคดีโดยอ้างเหตุป่วยปวดฟันรวม ๓ ครั้ง ศาลชั้นต้นเห็นว่าจำเลยประวิงคดี จึงมีคำสั่งว่าจำเลยไม่มีพยานมาสืบตามข้อต่อสู้ ให้งดสืบพยานจำเลยและนัดสืบพยานโจทก์ ศาลชั้นต้นสืบพยานโจทก์แล้วพิพากษาขับไล่จำเลยและบริวาร
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาพิเคราะห์แล้ว เห็นว่ากลวิธีในการดำเนินคดีของจำเลยตั้งแต่ต้นมา แสดงให้เห็นว่าจำเลยพยายามที่จะให้คดีดำเนินไปอย่างชักช้า กล่าวคือ ในเบื้องต้นจำเลยได้ทำเป็นฟ้องแย้ง แต่แล้วจำเลยก็ปล่อยระยะเวลาให้ล่วงเลยไปโดยไม่นำเจ้าพนักงานไปส่งหมายเรียกและฟ้องแย้งให้โจทก์ ศาลจึงมีคำสั่งให้จำหน่ายฟ้องแย้งในวันนัดชี้สองสถานฝ่ายจำเลยก็ไม่มาศาล แต่โจทก์ขอให้ศาลดำเนินการชี้สองสถานไป ศาลได้กำหนดหน้าที่นำสืบให้จำเลยเป็นฝ่ายสืบก่อน ถึงวันนัดสืบพยานครั้งแรกทนายจำเลยแถลงต่อศาลว่า ป่วยปวดฟัน ได้บอกให้จำเลยกลับไปแล้ว ขอเลื่อนคดีไป ศาลอนุญาตให้เลื่อน และได้กำชับว่าในนัดหน้าจำเลยมีพยานเพียงใดให้ระบุและหมายเรียกหรือนำมาสืบเสีย หากมีกรณีขอเลื่อนไปอีกศาลจะไม่อนุญาตถ้าไม่มีเหตุผลที่หนักแน่นสมควรแท้จริง
นัดที่ ๒ ทนายโจทก์ขอเลื่อน
นัดที่ ๓ ทนายจำเลยขอเลื่อน โดยอ้างเหตุป่วยปวดฟัน ศาลอนุญาตให้เลื่อน และได้จดรายงานพิจารณาว่า ศาลจะอนุญาตให้ฝ่ายจำเลยขอเลื่อนคดีนี้ไปครั้งนี้อีกครั้งเดียว ในนัดหน้าศาลจะไม่อนุญาตให้จำเลยขอเลื่อนคดีไปอีกไม่ว่ากรณีใด ๆ ศาลไม่พึงประสงค์จะให้คู่ความฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดถือโอกาสประวิงคดี
นัดที่ ๔ ทนายจำเลยยื่นคำร้องขอเลื่อนอีก อ้างเหตุป่วยปวดฟัน โดยถอนฟัน ๑ ซี่ และเหงือกเป็นหนอง โจทก์คัดค้านว่า ทนายจำเลยขอเลื่อนมาหลายนัดแล้ว ศาลจึงไม่อนุญาตให้เลื่อน
ที่จำเลยฎีกาว่า การเจ็บป่วยของทนายจำเลยเป็นการเจ็บป่วยโดยกระทันหัน สุดวิสัยที่จำเลยจะทราบได้จึงไม่สามารถหาทนายใหม่ได้นั้น เห็นว่าเป็นข้อแก้ตัวที่ฟังไม่ขึ้น เพราะการป่วยเป็นโรคฟันของทนายจำเลยนั้น ไม่ใช่เป็นเรื่องที่พึงเป็นโดยปัจจุบันทันด่วน แต่ทนายจำเลยป่วยเป็นโรคฟันมาก่อนหลายเดือนแล้ว และการที่ศาลอนุญาตให้จำเลยเลื่อนคดี ๒ นัดก่อนก็ได้กำชับเรื่องการขอเลื่อนไว้แล้ว ถึงกระนั้นจำเลยก็ยังขอเลื่อนด้วยเหตุอย่างเดียวขึ้นมาอีก ตามพฤติการณ์ที่ฝ่ายจำเลยดำเนินคดีตลอดมาดังกล่าว ศาลฎีกาเห็นว่าเป็นการประวิงคดี ที่ศาลชั้นต้นไม่อนุญาตให้จำเลยเลื่อนคดีต่อไปจึงชอบแล้ว ไม่มีเหตุที่จะสั่งให้จำเลยสืบพยานใหม่ดังที่จำเลยฎีกาขึ้นมา
ส่วนข้อที่จำเลยฎีกาว่าถ้าศาลอนุญาตให้จำเลยสืบพยานได้แล้ว คดีของจำเลยจะฟังได้ว่าเป็นสัญญาต่างตอบแทน และห้องพิพาทเป็นเคหะได้รับความคุ้มครองนั้น ศาลฎีกาเห็นว่าเมื่อไม่อนุญาตให้จำเลยสืบพยานได้แล้วก็ไม่มีข้อเท็จจริงที่จะต้องวินิจฉัยฎีกาของจำเลยในข้อนี้แต่ประการใด
พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้ยกฎีกาจำเลย และให้จำเลยเสียค่าทนายชั้นฎีกา ๑๐๐ บาทแทนโจทก์ด้วย

Share