แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
พนักงานบำรุงป่า รับเงินเดือนจากงบประมาณประเภทบำรุงป่าเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ป่าไม้ตาม พระราชบัญญัติป่าไม้การสอบ บรรจุโอนตั้งย้ายและให้ความดีความชอบเลื่อนอันดับเงินเดือน ถือตาม พระราชบัญญัติข้าราชการพลเรือนโดยอนุโลมนั้น ถือว่าเป็นเจ้าพนักงานตามกฎหมายแล้ว
เจ้าพนักงานอื่นร่วมใจกับเจ้าพนักงานผู้มีหน้าที่ปกครองรักษาเงินในหน้าที่ราชการยักยอกเงินซึ่งอยู่ในความปกครองรักษาของตนไปนั้นเจ้าพนักงานผู้มีหน้าที่ปกครองรักษาเงินมีผิดตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 131 ส่วนเจ้าพนักงานอื่นนั้น มีผิดเพียงฐานสมรู้ เท่านั้น
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยเป็นเจ้าพนักงานยักยอกทรัพย์ในหน้าที่ราชการของจำเลย ขอให้ลงโทษ ฯลฯ
จำเลยที่ 1 รับสารภาพ จำเลยที่ 2 ปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งสองผิดตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 131, 319(3) ให้จำคุกคนละ 3 ปี ตามมาตรา 131 ซึ่งเป็นบทหนัก ฯลฯ
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ 2 ฎีกา
ศาลฎีกา เห็นว่า จำเลยที่ 2 เป็นพนักงานบำรุงป่า รับเงินเดือนจากงบประมาณประเภทบำรุงป่า เป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ป่าไม้ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ การสอบ บรรจุ โอนตั้ง ย้าย และให้ความดีความชอบ เลื่อนอันดับเงินเดือนตามพระราชบัญญัติข้าราชการพลเรือนโดยอนุโลมจึงเป็นเจ้าพนักงานตามกฎหมายแล้ว แต่ปรากฏตามคำฟ้องว่า จำเลยที่ 2 มีหน้าที่ลงรับ ตรวจใบสำคัญและช่วยจำเลยที่ 1 ในแผนกบัญชีเกี่ยวกับการเงิน ไม่ใช่มีหน้าที่เบิกจ่ายรับเก็บปกครองรักษาเงินดังเช่นจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 2 จึงไม่ใช่เป็นเจ้าพนักงานตามมาตรา 131 การที่จำเลยที่ 2 ร่วมใจกับจำเลยที่ 1 กระทำการยักยอกเงินซึ่งอยู่ในความปกครองรักษาของจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 2 มีผิดเพียงฐานสมรู้ จึงพิพากษาแก้ว่าจำเลยที่ 2 ผิดตามมาตรา 131, 65 จำคุก 2 ปีนอกนี้คงยืน