คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3568/2558

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

สัญญาจ้างให้บริการรักษาความปลอดภัยระหว่างบริษัท ท. ผู้ว่าจ้าง กับ กลุ่ม ล. ผู้รับจ้างซึ่งมีจำเลยเป็นตัวแทน ข้อ 9.1 ระบุให้จำเลยรับผิดเฉพาะกรณีเป็นทรัพย์สินของผู้ว่าจ้าง หรือเป็นทรัพย์สินที่ผู้ว่าจ้างมีหน้าที่ดูแลรับผิดชอบได้รับความเสียหาย แต่ตามสัญญารับจ้างให้บริการรถเข็นกระเป๋าระหว่างบริษัท ท. ผู้ว่าจ้าง กับ บริษัท อ. ผู้รับจ้างซึ่งทำประกันภัยไว้กับโจทก์ เห็นได้ชัดว่าเป็นสัญญาจ้างทำของ ดังนั้น รถเข็นกระเป๋าจึงไม่ใช่ทรัพย์สินของบริษัท ท. หรือทรัพย์สินที่บริษัท ท. มีหน้าที่ดูแลรับผิดชอบ กรณีย่อมไม่เข้าเงื่อนไขตามสัญญาที่จะให้จำเลยต้องรับผิด

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องและแก้ไขคำฟ้องขอให้บังคับจำเลยชำระเงินจำนวน 10,000,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยให้การและแก้ไขคำให้การขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับ
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงเบื้องต้นฟังยุติว่า โจทก์เป็นผู้รับประกันภัยประเภทความเสี่ยงต่อทรัพย์สินสำหรับรถเข็นกระเป๋าจากบริษัทไทย แอร์พอร์ตส์ กราวด์ เซอร์วิสเซส จำกัด หรือแท็กซ์ผู้เอาประกันภัย ซึ่งเป็นรถเข็นกระเป๋าที่ผู้เอาประกันภัยทำสัญญารับจ้างให้บริการที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิกับบริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. จำเลยเป็นตัวแทนผู้ได้รับมอบหมายจากกลุ่มล็อกซเลย์ – ไอ ซี ที เอส คอนซอร์เตียม ให้เป็นผู้ดูแลรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิตามสัญญาจ้างให้บริการรักษาความปลอดภัย ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิที่กลุ่มล็อกซเลย์ – ไอ ซี ที เอส คอนซอร์เตียม ได้ทำกับบริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ต่อมาระหว่างเดือนมิถุนายน 2551 ถึงเดือนสิงหาคม 2551 รถเข็นกระเป๋าของผู้เอาประกันภัยเกิดสูญหายเนื่องจากถูกคนร้ายลักไปจากบริเวณท่าอากาศยานสุวรรณภูมิจำนวน 4,722 คัน รวมเป็นเงิน 5,454,720 บาท โจทก์ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนตามสัญญาประกันภัยแก่ผู้เอาประกันภัยเต็มวงเงิน 10,000,000 บาท จึงรับช่วงสิทธิฟ้องให้จำเลยรับผิดฐานละเมิด คงมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ว่าจำเลยต้องรับผิดต่อโจทก์หรือไม่ เห็นว่า ตามสัญญาจ้างให้บริการรักษาความปลอดภัย ข้อ ๙.1 ได้ระบุให้จำเลยฝ่ายผู้รับจ้างรับผิดเฉพาะกรณีเป็นทรัพย์สินของผู้ว่าจ้างหรือเป็นทรัพย์สินที่ผู้ว่าจ้างมีหน้าที่ดูแลรับผิดชอบได้รับความเสียหาย แต่ตามสัญญารับจ้างให้บริการรถเข็นกระเป๋าที่ผู้เอาประกันภัยทำกับบริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) เห็นได้ชัดว่าเป็นสัญญาจ้างทำของ ดังนั้น รถเข็นกระเป๋าจึงไม่ใช่ทรัพย์สินของบริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือทรัพย์สินที่บริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) มีหน้าที่ดูแลรับผิดชอบ กรณีย่อมไม่เข้าเงื่อนไขตามสัญญาที่จะให้จำเลยต้องรับผิด ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษามานั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ไม่จำต้องวินิจฉัยฎีกาข้ออื่น เพราะไม่มีผลให้คำพิพากษาเปลี่ยนแปลง ฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ

Share